วันศุกร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2551

ข้าวโพดต้ม จองดีกว่าที่คิด

ข้าวโพดต้ม ของดีกว่าที่คิด
เราเคยเชื่อกันว่า ผักผลไม้ดิบ สดจากธรรมชาติ จะมีคุณค่าทางอาหารสูงกว่าที่เอามาหุงต้ม และหลายคนเข้าใจว่า การต้มข้าวโพดต้องต้มเร็วๆ พอสุก ไม่ต้มนานๆ แต่นักวิจัยที่มหาวิทยาลัยคอร์เนล ทำให้ความเชื่อนั้นเริ่มสั่นคลอน เมื่อรายงานว่า การกินข้าวโพดต้มสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจและมะเร็งได้ นักวิจัยพบว่า การต้มทำให้ข้าวโพดปล่อยสารแอนตี้ออกซิแดนท์ออกมาหลายตัว และที่สำคัญตัวหนึ่งที่ชื่อว่า กรดเฟอรูลิก (Ferulic acid)

กรดเฟอรูลิกสำคัญอย่างไร
กรดเฟอรูลิกเป็นกรดอินทรีย์ เป็นสารสำคัญที่เป็นตัวช่วยทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายมีประสิทธิภาพ กรดเฟอรูลิกเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จึงถูกใช้สำหรับต่อต้านการแก่ (aging) ป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็ง โรคหัวใจ ไข้หวัด รักษาสุขภาพของกล้ามเนื้อ ต่อต้านผลกระทบจากรังสีอัลตราไวโอเลต (จึงป้องกันมะเร็งผิวหนังได้)

กรดเฟอรูลิก เป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่มีประสิทธิภาพสูงมากในเนื้อเยื่อของคนเวลาที่คนเราออกกำลังร่างกาย โดยเฉพาะการออกกำลังชนิดแอโรบิก ซึ่งมีการใช้ออกซิเจนมากในร่างกาย นั่นคือ เกิดออกซิไดส์(Oxidize) หรือเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน (Oxidation)

ในร่างกายคน คำว่า ออกซิไดส์ หรือ ออกซิเดชัน หมายถึง ปฏิกิริยาจากออกซิเจน นั่นเอง การออกซิไดส์ในร่างกาย ถ้าจะเปรียบให้เข้าใจง่ายๆ ก็ทำนองเดียวกับการเกิดสนิมเหล็กที่ตัวถัง รถยนต์นั่นเอง การเกิดสนิมเป็นปฏิกิริยาออกซิไดส์ที่เหล็กสัมผัสกับออกซิเจนและความชื้นในอากาศ และกลายเป็นสนิม และในที่สุด รถก็จะผุพังไป ร่างกายคนเราก็เช่นเดียวกัน มีการออกซิไดส์เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ยิ่งมีการใช้ออกซิเจนมาก ยิ่งมีการออกซิไดส์มาก

ปกติธาตุออกซิเจนเป็นธาตุที่ขาดไม่ได้สำหรับชีวิต แม้กระนั้น ก็ตามออกซิเจนในบางรูปก็อาจเป็นอันตรายได้ โมเลกุลของออกซิเจนปกติ (ออกซิเจนดี) จะมีอิเล็กตรอนอยู่กันเป็นคู่ ทำให้เป็นโมเลกุลของออกซิเจนที่คงตัว แต่ถ้าออกซิเจนมีการสูญเสียอิเล็กตรอน ทำให้อิเล็กตรอนขาดคู่ จะไม่คงตัว เรียกว่า อนุมูลอิสระ (ออกซิเจนตัวร้าย) ที่เรียกว่าเป็นตัวร้ายเพราะมันไม่เสถียร จึงเคลื่อนที่พล่านไปเพื่อหาอิเล็กตรอน และฉกเอาอิเล็กตรอนจากเซลล์อื่นๆ และเข้าไปเกาะอยู่กับเซลล์ ก็ทำให้โมเลกุลในเซลล์นั้นกลายเป็นอนุมูลอิสระที่มีออกซิเจนเป็นแกน ถ้ามีมากจะทำลายเซลล์ในเนื้อเยื่อ นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า กระบวนการนี้คือ กระบวนการแก่ (Aging process) ของคนนั่นเอง

เวลาที่คนเราออกกำลังกาย ถ้าอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้น ไม่ได้ถูกกำจัดออก จะก่อให้เกิดความผิดปกติของกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อล้า ไม่สามารถเล่นต่อไปได้ ปวดกล้ามเนื้อ และกล้ามเนื้ออักเสบได้ กรดเฟอรูลิกในร่างกายจะทำหน้าที่กำจัดออกซิเจนตัวร้ายทันที ที่เกิดขึ้น โดยการจัดส่งอิเล็กตรอนให้ทันที จึงไม่สามารถไปฉกเอาอิเล็กตรอนจากเซลล์ของเนื้อเยื่อ อาการผิดปกติต่างๆ จึงไม่เกิดขึ้น

ดังนั้น การออกกำลังกายก็ต้องมีข้อควรระวังด้วย ไม่ใช่ออกกำลังกายอย่างเดียว แต่ต้องเตรียมสุขภาพและกินอาหารที่ดีด้วย คนที่มีสุขภาพไม่ได้ ขาดสารอาหารหรืออ่อนแอ ควรออกกำลังได้ตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น และต้องมีการเตรียมตัวในด้านอาหารและโภชนาการด้วย

นักวิจัยพบว่า ถ้าต้มข้าวโพดยิ่งนาน ปริมาณของสารแอนตี้ ออกซิแดนท์จะถูกปล่อยออกมามากขึ้น ถ้าต้มข้าวโพดที่ 115 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 10 นาที ปริมาณของสารแอนตี้ออกซิแดนท์จะเพิ่มขึ้น 21% ถ้าต้ม 25 นาที จะได้สารแอนตี้ออกซิแดนท์เพิ่มขึ้น 44% และถ้าต้ม 50 นาที จะได้เพิ่มถึง 53% แต่เมื่อวัดปริมาณเฉพาะกรดเฟอรูลิกที่ถูกปล่อยออกมาพบว่า กรดนี้มีปริมาณเพิ่มขึ้นถึง 240% (เมื่อต้ม 10 นาที), 550% (เมื่อต้ม 25 นาที) และ 900% (เมื่อต้ม 50 นาที) คนจำนวนมาก ชอบกินข้าวโพดหวานดิบ เพราะเชื่อว่ามีสารอาหารครบถ้วนสมบูรณ์ดี หลายตนชอบต้มเพียงพอสุก เพราะเกรงความหวานจะหายไป ผลงานวิจัยนี้เสนอแนะให้ทราบว่า ข้าวโพดต้มมีคุณค่าทางอาหารสูงมาก ในแง่ของการให้สารแอนตี้ออกซิแดนซ์ แม้ว่าวิตามินบางตัว เช่น วิตามินซี จะหายไปบ้าง อย่างไรก็ตามข้าวโพดก็ไม่ใช่แหล่งที่ดีสำหรับวิตามินซีอยู่แล้ว

วันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2551

วิถีถนอมผิว/บำรุงเส้นผมและหนังศรีษะ

วิธีถนอมผิว / บำรุงเส้นผมและหนังศรีษะ ด้วย Virgin Coconut Oilข้อความ : .....Virgin Coconut Oil

กำลังได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าสามารถช่วย รักษาและถนอมผิวหนัง เส้นผม และหนังศรีษะได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นเรามาทำความรู้จักประโยชน์ของ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น บริสุทธิ์ 100% กันเถอะ nipabhan@yahoo.com

"น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์" คือส่วนผสมสำคัญในเครื่องสำอางหลายชนิดที่คุณผู้หญิงแทบทุกคนใช้กันอยู่...ไม่ว่าจะเป็นครีมกันแดด หรือครีมประทินผิวอีกนานาชนิด นอกจากนี้ยังเป็นส่วนประกอบในยารักษาโรคบางชนิดด้วย

น้ำมันมะพร้าวจึงเป็นสินค้าที่แพงเอาการ ราคากิโลละหลายร้อยบาท...โดยเฉพาะหากเป็นน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศอย่างในแถบฮาวายหรือฟิลิปปินส์ ราคาก็จะยิ่งแพงขึ้นไปอีก

สำหรับขั้นตอนในการสกัดน้ำมันมะพร้าวนั้นจะใช้การ "สกัดร้อน" ซึ่งมีข้อเสียคือมีสารที่เป็นประโยชน์บางตัวต้องถูกทำลายไป รวมทั้งยังมีมลภาวะทางกลิ่นตามมา...

กระบวนการผลิตน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ (Extract Virgin Coconut Oil) ด้วยวิธีการสกัดเย็นโดยใช้มะพร้าวสดในรูปของน้ำกะทิเป็นวัตถุดิบหลัก ซึ่งมีการผลิตที่อาศัยกระบวนการทางกลศาสตร์และใช้เทคนิคควบคุมอุณหภูมิเพื่อแยกน้ำมันมะพร้าวออกจากน้ำกะทิ ทำให้ได้น้ำมันมะพร้าวที่มีคุณภาพดี มีลักษณะใส ไม่มีสี มีกลิ่นหอมของมะพร้าวตามธรรมชาติ มีกรดไขมันอิสระน้อยกว่า 0.1% และมีส่วนประกอบกรดไขมันในอัตราส่วนที่ดีกว่าการสกัดร้อน

"การสกัดในบ้านเราส่วนใหญ่ใช้วิธีการสกัดร้อน ซึ่งการสกัดร้อนจะได้น้ำมันมะพร้าวดิบที่สกปรก และต้องเอามาฟอกใหม่โดยใช้สารเคมี อีกวิธีคือการเอากะทิไปหมัก แล้วแยกเอาไขออกมา ซึ่งถ้าทิ้งไว้นานๆ จะเกิดแบคทีเรียและมีกลิ่น เราเลยหาวิธีสกัดแบบใหม่ ว่าทำยังไง ก็พบว่าใช้การสกัดเย็น ไม่ใช้ความร้อนเลย

วิธีการคือนำกะทิมาผ่านเข้าเครื่อง แล้วกวนโดนใช้ความเย็นจนออกมาเป็นน้ำมัน แล้วนำไปผ่านเครื่องกรองให้ออกมาใส เอาส่วนที่เป็นเค้กออก เอาเฉพาะส่วนที่เป็นน้ำมันที่เรียกว่า Extra Virgin Oil แล้วนำไปผ่านกระบวนการดูดกลิ่นกับความชื้นออก ก็จบกระบวนการ

" สำหรับความแตกต่างของการสกัดแบบร้อนและเย็นนั้น เขาบอกว่าการสกัดเย็นนั้น น้ำมันที่ได้จะสะอาดบริสุทธิ์ และไม่ต้องนำไปกลั่น สารบางชนิดที่มีประโยชน์จะยังคงอยู่ นอกจากนี้ยังไม่มีมลภาวะหรือของเสียเกิดขึ้น ส่วนการสกัดร้อนนั้นจะทำให้เกิดกลิ่น

Premium Virgin coconut oil มีกรด Lauric acid ซึ่งเป็นกรดไขมันที่ใกล้เคียงกับน้ำหล่อเลี้ยงผิวมนุษย์ ทุกหยดใสของน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์มีประโยชน์ต่อร่างก่าย มีฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ตามหลักอายุรเวชใช้นวดเพื่อคลายกล้ามเนื้อและช่วยให้พังผืดอ่อนตัวแก้ไขข้อยึดติดได้ และสมานกระดูก และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยคืนความชุ่มชื่นแก่ผิวพร้อมปกป้องผิวจากแสงแดด ใช้นวดตัวเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ พร้อมปรับสภาพผิวให้นุ่มชุ่มชื่น, ทาผิวหน้าและผิวกายหลังอาบน้ำเพื่อช่วยคงความอ่อนเยาว์ของผิว, ใช้เป็นรองพื้นก่อนแต่งหน้าช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย ป้องกันรอยหมองคล้ำ (ใช้ได้ทุกวันทุกเวลาเพื่อผิวพรรณที่ผุดผ่องสดใส เปล่งปลั่ง) ใช้ทาผิวเพื่อปรับสภาพผิวที่ถูกเผาไหม้จากแสงแดด และใช้ทาผิวเมื่อเกิดอาการแพ้หรือเกิดผดผื่นคันที่ผิวหนัง ใช้เช็ดหน้าเพื่อทำความสะอาดเครื่องสำอางบนใบหน้า ด้วยสูตรน้ำมันบางเบาไม่ทำให้เหนียวเหนอะหนะไม่ระคายเคืองแม้แต่ผิวที่บอบบางแพ้ง่าย ใช้ทาหน้าท้องช่วงตั้งครรภ์ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื่นไม่แห้งแตกจากการขยายตัวของผิวหน้าท้อง

หรือใช้ลูบไล้เส้นผมให้เงางามนุ่มสลวยช่วยถนอมหนังศีรษะป้องกันรังแค ใช้หมักผมก่อนสระ (หมักทิ้งไว้ 30นาที ถึง 1 ชั่วโมง) เพื่อลดการหลุดร่วงของเส้นผม และกระตุ้นการเกิดใหม่ของเส้นผม ช่วยบำรุงรากผมให้แข็งแรงไม่หงอกก่อนวัย และปรับสภาพเส้นผมที่แห้งเสียแตกปลายขาดเปราะง่ายให้มีน้ำหนัก ให้มีความยืดหยุ่นนุ่มลื่นเป็นเงางาม

วิธีการเก็บรักษาน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ 100%: น้ำมันมะพร้าวจะเป็นไขที่อุณหภูมิต่ำกว่า 250 C และจะกลับมาใสเหมือนเดิมที่อุณหภูมิห้อง โดยที่คุณสมบัติทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม เก็บไว้ได้นานในอุณหภูมิปกติโดยไม่มีกลิ่นหืน ไม่ต้องเก็บในตู้เย็น อย่าให้โดนแสงแดด หรือความร้อนมาก (หากน้ำมันมะพร้าวเป็นไขให้น้ำขวดน้ำมันมะพร้าวไปแช่ในน้ำอุ่นประมาณ 5 นาที น้ำมันมะพร้าวจะกลับมาใสเหมือนเดิม)

วันพุธที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2551

ความรู้เรื่องโลหิต

ความรู้เรื่องโลหิต

ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับโลหิต
โลหิตเป็นอวัยวะชนิดหนึ่ง เป็นของเหลวสีแดงที่ไหลเวียนอยู่ภายในหลอดโลหิตทั่วร่างกาย โดยมีหัวใจทำหน้าที่สูบฉีดโลหิต อวัยวะสำคัญของร่างกายที่ทำหน้าที่สร้างเม็ดโลหิต ได้แก่ ไขกระดูก เช่น กระดูกหน้าอก กระดูกแขน กระดูกซี่โครง กระดูกเชิงกราน กระดูกไขสันหลัง เป็นต้น ในร่างกายมนุษย์ (ผู้ใหญ่) จะมีโลหิตประมาณ 4,000 - 5,000 ซี.ซี. หรือ ปริมาณตามน้ำหนักของแต่ละคน คิดโดยประมาณคือ 80 ซี.ซี. ต่อน้ำหนัก 1 กิดลกรัม
เม็ดโลหิตที่สร้างจากไขกระดูก มี 3 ชนิด คือ
1. เม็ดโลหิตแดง
2. เม็ดโลหิตขาว
3. เกร็ดโลหิต

โลหิตแบ่งได้ 2 ส่วน คือ
1. ส่วนของเม็ดโลหิต
2. ส่วนพลาสม่า (Plasma)1. ส่วนของเม็ดโลหิต มีประมาณ 45 เปอร์เซนต์ ของโลหิตทั้งหมด
เม็ดโลหิตแดง มีหน้าที่ในการลำเลียงอ๊อกซิเจนไปให้เซลส์อวัยวะต่าง ๆ ใช้สันดาบ อาหารเป็นพลังงาน อายุการทำงานของเม็ดโลหิตแดง ประมาณ 120 วัน
เม็ดโลหิตขาว มีหน้าที่ป้องกันและทำลายสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย
เกร็ดโลหิต มีหน้าที่ช่วยทำให้โลหิตแข็งตัว ตรงจุดที่มีการฉีดขาดของหลอดโลหิต2. พลาสม่า (Plasma) เป็นส่วนของเหลวของโลหิตที่ทำให้เม็ดโลหิตลอยตัว มีลักษณะเป็นน้ำเหลืองมีอยู่ประมาณ 55 เปอร์เซนต์ ของโลหิตทั้งหมดในร่างกาย
หน้าที่ของพลาสม่า
- ควบคุมความดัน และปริมาตรของโลหิต
- ป้องกันเลือดออก
- เป็นภูมิคุ้มกันโรคติดต่อที่จะเข้าสู่ร่างกาย
ส่วนพลาสม่าประกอบด้วย
1. ส่วนน้ำ ประมาณ 92 เปอร์เซนต์
2. ส่วนโปรตีน มีประมาณ 8 เปอร์เซนต์ โปรตีนส่วนนี้จะมีความสำคัญคือ
2.1 แอลบูมิน มีหน้าที่รักษาความสมดุลของน้ำในหลอดเลือด และเนื้อเยื่อ
2.2 อินมูโนโกลบูลิน มีหน้าที่เป็นภูมิคุ้มกันโรคติดต่อต่าง ๆ ที่จะเข้าสู่ร่างกาย

ประเภทของโลหิต โลหิตของมนุษย์สามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ดังนี้
1. หมู่โลหิตระบบ ABO
2. หมู่โลหิตระบบ Rh1. หมู่โลหิตระบบ ABO
หมู่โลหิตเริ่มค้นพบใน คศ. 1900 โดย Karl Landsteiner พบหมู่โลหิต A, B, และ O ส่วนหมู่โลหิต AB พบโดย Von Decastello และ Sturli ในปี คศ. 1902
สถิติหมู่โลหิต ABO ของคนไทย มีดังนี้
หมู่โลหิต A 21.1 %
หมู่โลหิต B 34.0 %
หมู่โลหิต O 37.6 %
หมู่โลหิต AB 7.3 %

มารยาทในการฟัง

ความหมายของการฟัง
การฟัง หมายถึงการรับสาร หรือเสียงที่ได้ยินทางหู การฟังอย่างมีจุดมุ่งหมาย มีมารยาทและรู้จักพินิจพิเคราะห์เนื้อหาของสาร ที่รับว่ามีข้อเท็จจริง อย่างไร รู้จักจับใจความสำคัญ ใจความย่อย สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ผู้รับสาร ได้ประโยชน์จากการฟังอย่างเต็มที่

การฟังต้องมีจุดมุ่งหมาย
ในการฟังเรื่องใด ๆ ก็ตาม ผู้ฟังควรตั้งจุดมุ่งหมาย ในการฟัง ซึ่งมีจุดมุ่งหมายหลัก 3 ประการ คือ
1) ฟังเพื่อความรู้ ได้แก่ การฟังเรื่องราวที่เป็นวิชาการ ข่าวสารและข้อแนะนำต่าง ๆ การฟังเพื่อความรู้ จำเป็นต้องฟังให้เข้าใจและจดจำสาระสำคัญให้ได้
2) ฟังเพื่อความเพลิดเพลิน คือ การฟังเรื่องราวที่สนุกสนานเพลิดเพลิน ทำให้ผ่อนคลายความตึงเครียดจากภารกิจการงานและสิ่งแวดล้อม
3) ฟังเพื่อให้ได้รับคติหรือความจรรโลงใจ คือ การฟังเรื่องที่ทำให้เกิดแนวคิด และสติปัญญา เกิดวิจารณญาณ ขัดเกลาจิตใจให้มีคุณธรรม การฟังประเภทนี้ต้องรู้จักเลือกฟัง และเลือกเชื่อในสิ่งที่ถูกที่ควรซึ่งจะช่วยให้ผู้ฟัง มีคติในการดำเนินชีวิตไปในทางดีงาม และรู้จักสร้างสรรค์ประโยชน์เพื่อสังคม
การฟังทั้ง 3 ประการ อาจรับฟังได้จากสื่อต่าง ๆ เช่น
วิทยุ โทรทัศน์ การประชุม ปาฐกถา ฯลฯ นอกจากนี้การฟังในแต่ละครั้ง ผู้ฟังอาจได้รับประโยชน์ทั้ง 3 ด้าน หรือด้านใด ด้านหนึ่ง เฉพาะด้านซึ่งเป็นการฟังเพื่อประโยชน์ของตนเอง
มารยาทในการฟัง
ผู้มีมารยาท ในการฟังควรปฏิบัติตน ดังนี้
1. เมื่อฟังอยู่เฉพาะหน้าผู้ใหญ่ ควรฟังโดยสำรวมกิริยามารยาท ฟังด้วยความสุภาพเรียบร้อย และตั้งใจฟัง
2. การฟังในที่ประชุม ควรเข้าไปนั่งก่อนผู้พูดเริ่มพูด โดยนั่งที่ด้านหน้าให้เต็มก่อนและควรตั้งใจฟังจนจบเรื่อง
3. จดบันทึกข้อความที่สนใจหรือข้อความที่สำคัญ หากมีข้อสงสัยเก็บไว้ถามเมื่อมีโอกาสและถามด้วยกิริยาสุภาพ เมื่อจะซักถามต้องเลือกโอกาสที่ผู้พูดเปิดโอกาสให้ถาม หรือยกมือขึ้นขออนุญาตหรือแสดงความประสงค์ในการซักถาม ถามด้วยถ้อยคำสุภาพ และไม่ถามนอกเรื่อง
4. มองสบตาผู้พูด ไม่มองออกนอกห้องหรือมองไปที่อื่น อันเป็นการแสดงว่าไม่สนใจเรื่องที่พูด และไม่เอาหนังสือไปอ่านขณะที่ฟัง หรือนำอาหารเครื่องดื่มเข้าไปรับประทานระหว่างฟัง
5. ฟังด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสเป็นกันเองกับผู้พูด แสดงสีหน้าพอใจในการพูด ไม่มีแสดงกิริยาก้าวร้าว เบื่อหน่าย หรือลุกออกจากที่นั่งโดยไม่จำเป็นขณะฟัง
6. ฟังด้วยความสุขุม ไม่ควรก่อความรำคาญให้บุคคลอื่น ควรรักษามารยาทและสำรวมกิริยา ไม่หัวเราะเสียงดังหรือกระทืบเท้าแสดงความพอใจหรือเป่าปาก
7. ฟังด้วยความอดทนแม้จะมีความคิดเห็นขัดแย้งกับผู้พูดก็ควรมีใจกว้างรับฟังอย่างสงบ
8. ไม่พูดสอดแทรกขณะที่ฟัง ควรฟังเรื่องให้จบก่อนแล้วค่อยซักถามหรือแสดงความคิดเห็น
9. ควรให้เกียรติ
วิทยากรด้วยการปรบมือ เมื่อมีการแนะนำตัวผู้พูด ภายหลังการแนะนำ และเมื่อวิทยากร พูด จบ

วันอังคารที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2551

เหตการณ์ปัจจุบันที่มีผลกระทบ

เหตการณ์ปัจจุบันที่มีผลกระทบต่อประชารภายในประเทศ



"สมศักดิ์" ขึ้นเวทีปลุกผู้ชุมนุมเตรียมความพร้อมรับมือตร.เอารถมาล้อมทำเนียบและมัฆวานทุกด้านอีกครั้งเช้าวันนี้ หลังพันธมิตรฯแสดงจุดยืนไม่เจรจา ปักหลักชุมนุมต่อจนกว่า"หมัก"จะลาออก วันนี้(3 ก.ย.) เมื่อเวลา 08.50 นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีกล่าวเตือนผู้ชุมนุมว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ล้อมทำเนียบ และมัฆวาน ไว้ทุกด้านแล้ว ขอให้ทุกคนเตรียมตัว อย่าตกใจ เราอย่าประมาท ขอให้การด์เตรียมพร้อมป้องกันทุกประตู เพราะเขารู้ว่าเราไม่เจรจา ถ้าเราเจรจากับสมัคร เราเอาข้าวให้หมาขี้เรื้อนกินดีกว่า ได้บุญกว่าเยอะ คุยกับสมัครเสียเวลา ไม่มีประโยชน์ เพราะสมัครเป็นคนบ้า ถ้าเราเป็นคนบ้าเหมือนสมัคร ก็พูดรู้เรื่อง พูดภาษาเดียวกับสมัคร แต่เราปล่อยให้มันบ้าคนเดียวดีกว่า ตอนนี้สมัครเข้าขั้นสุดท้ายแล้ว ดังนั้นขอให้ประชาชนออกจากบ้านมาช่วยกันมากๆ ในตอนท้าย นายสมศักดิ์ ขอให้พนักงานรัฐวิสาหกิจ ที่ได้ตกลงกันไว้แล้ว ดำเนินการได้เลยไม่ต้องรอ หากผู้บริหารที่นั่งในกระทรวงไม่มีน้ำดื่ม ไม่มีน้ำประปาใช้ ไม่มีแอร์ จะอยู่ยังไง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 2 หน่วยงานที่จะโดนตัดน้ำตัดไฟเป็นที่แรก คือ กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ



"สมศักดิ์" ขึ้นเวทีปลุกผู้ชุมนุมเตรียมความพร้อมรับมือตร.เอารถมาล้อมทำเนียบและมัฆวานทุกด้านอีกครั้งเช้าวันนี้ หลังพันธมิตรฯแสดงจุดยืนไม่เจรจา ปักหลักชุมนุมต่อจนกว่า"หมัก"จะลาออก วันนี้(3 ก.ย.) เมื่อเวลา 08.50 นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีกล่าวเตือนผู้ชุมนุมว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ล้อมทำเนียบ และมัฆวาน ไว้ทุกด้านแล้ว ขอให้ทุกคนเตรียมตัว อย่าตกใจ เราอย่าประมาท ขอให้การด์เตรียมพร้อมป้องกันทุกประตู เพราะเขารู้ว่าเราไม่เจรจา ถ้าเราเจรจากับสมัคร เราเอาข้าวให้หมาขี้เรื้อนกินดีกว่า ได้บุญกว่าเยอะ คุยกับสมัครเสียเวลา ไม่มีประโยชน์ เพราะสมัครเป็นคนบ้า ถ้าเราเป็นคนบ้าเหมือนสมัคร ก็พูดรู้เรื่อง พูดภาษาเดียวกับสมัคร แต่เราปล่อยให้มันบ้าคนเดียวดีกว่า ตอนนี้สมัครเข้าขั้นสุดท้ายแล้ว ดังนั้นขอให้ประชาชนออกจากบ้านมาช่วยกันมากๆ ในตอนท้าย นายสมศักดิ์ ขอให้พนักงานรัฐวิสาหกิจ ที่ได้ตกลงกันไว้แล้ว ดำเนินการได้เลยไม่ต้องรอ หากผู้บริหารที่นั่งในกระทรวงไม่มีน้ำดื่ม ไม่มีน้ำประปาใช้ ไม่มีแอร์ จะอยู่ยังไง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 2 หน่วยงานที่จะโดนตัดน้ำตัดไฟเป็นที่แรก คือ กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

การเลี้ยงสัตว์

การเลี้ยงสัตว์

การเลี้ยงสัตว์ภายในที่ดินแปลงจัดสรร สมาชิกจะต้องปฎิบัติภายใต้กฎหมายอื่นที่บัญญัติไว้ โดยต้องดูแลให้เรียบร้อย ไม่รบกวนความสงบเรียบร้อยหรือก่อเหตุเดือดร้อนรำคาญ หรือเป็นอันตรายแก่สมาชิกอื่นๆ และในกรณีที่จะนำออกจากที่ดินแปลงจัดสรร สมาชิกหรือบริวารของสมาชิกจะต้องดูแลให้เรียบร้อยและควบคุมได้ตลอดเวลา โดยใส่สายลากจูง และปฏิบัติดังนี้หากสุนัขจากบ้านใดออกมาในที่สาธารณะ ไล่กัดคนอื่นหรือสัตว์เลี้ยงอื่นจะด้วยความประมาทของผู้ดูแลหรือไม่ก็ตาม เจ้าของสัตว์เลี้ยงจะต้องชดใช้ค่าเสียหายและค่าพยาบาลเต็มจำนวน

หากสุนัขจากบ้านใดออกมาในที่สาธารณะ และหลุดออกจากการดูแลอย่างใกล้ชิด หรือจากสายที่ลากจูงไว้ จะด้วยความประมาทของผู้ดูแลหรือไม่ก็ตาม และสร้างความเดือดร้อนและหวาดกลัวแก่ผู้อื่น เช่น พยายามกัด หรือเห่า จนผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนแจ้งให้ผู้จัดการ หรือคณะกรรมการนิติบุคคลฯ ทราบเป็นลายลักษณ์อักษร ให้ทางผู้จัดการ หรือคณะกรรมการนิติบุคคลฯ เป็นผู้มีอำนาจกำหนดบทลงโทษ หากผู้จัดการ หรือคณะกรรมการนิติบุคคลฯ หรือสมาชิก เห็นเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึงตัวให้สามารถดำเนินการป้องกันภยันตรายใกล้จะถึงตัวนั้นตามสมควรแก่เหตุนั้นได้ และให้ถือว่าไม่เป็นการทำร้าย หรือทารุณสัตว์นั้นๆ หรือให้ดำเนินการ ตามกฎหมายอื่นที่ใช้บังคับในขณะนั้น

หากสุนัขจากบ้านใดออกมาในที่สาธารณะ โดยไม่มีผู้ดูแลอย่างใกล้ชิดพร้อมสายลากจูงลากไว้ จะถูกเจ้าหน้าที่นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร จับมากักขังไว้ และให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงมารับกลับไปได้ ทั้งนี้คณะกรรมการนิติบุคคลฯ เป็นผู้กำหนดบทลงโทษ และหากไม่มีผู้ใดมารับสุนัขคืนภายใน 3 วัน จะจัดส่งสุนัขให้เทศบาล หรือส่งสถานที่เหมาะสมต่อไป พร้อมทั้งเรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากการจัดส่งนั้นด้วย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ นิติบุคคลฯ จะไม่รับผิดชอบต่อสุขภาพของสุนัขในระหว่างการควบคุมแต่อย่างใด หากสุนัขหรือแมวจากบ้านใดออกมาในที่สาธารณะโดยไม่มีผู้จูงไว้ เกิดประสบอุบัติเหตุบาดเจ็บ หรือเกิดอันตรายแก่ชีวิต เจ้าของสัตว์เลี้ยงไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ทั้งสิ้น และหากอุบัติเหตุนั้นทำให้ผู้ประสบเหตุเกิดความเสียหายตามมา และผู้ประสบเหตุได้รับความเดือดร้อน และแจ้งคณะกรรมการนิติบุคคลฯ ทราบเป็นลายลักษณ์อักษร โดยให้ทางคณะกรรมการนิติบุคคลฯ เป็นผู้มีอำนาจกำหนดบทลงโทษเจ้าของสัตว์เลี้ยง ห้ามมิให้นำสุนัขหรือแมวออกมาถ่ายอุจาระในบริเวณพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งรวมถึง ถนน ทางเท้า พุ่มไม้ สวนหย่อม สนามหญ้าและบริเวณบ้านข้างเคียง หากหลุดออกมาจะด้วยความประมาทเลินเล่อหรือไม่ก็ตาม ผู้ดูแลจะต้องจัดการเก็บกวาดให้เรียบร้อยในทันที หากได้รับการร้องเรียนจากสมาชิก หรือพนักงานรักษาความปลอดภัย ให้ทางคณะกรรมการนิติบุคคลฯเป็นผู้มีอำนาจกำหนดบทลงโทษเจ้าของสัตว์เลี้ยง

การผลิตไฟฟ้าจากขยะ

การผลิตไฟฟ้าจากขยะ


ทุกๆปีชาวอเมริกันทิ้งขยะรวมกันเป็นน้ำหนักถึง 250 ตัน นครนิวยอร์กแห่งเดียวทำให้เกิดขยะถึง10ล้านตัน/ปี มีผู้ประเมินว่าปริมาณขยะของสหรัฐสามารถให้พลังงานได้เท่ากับถ่านหิน 100 ล้านตัน แต่ขยะส่วนมากถูกฝังและไม่ได้ใช้ทำประโยชน์
ในปริมาณขยะจากบ้านทุกหลังในโลกประกอบด้วยกระดาษถึง ½ ขยะในครัว ¼ พลาสติกไม่ถึง 1/10 และมีขยะที่ไม่ติดไฟอยู่1/5 ขยะส่วนมากนำมาแปรรูปใช้ประโยชน์ใหม่ได้

มีโรงงานเผาขยะเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าเกือบ 350 แห่ง ส่วนใหญ่อยู่ในยุโรปและญี่ปุ่น โรงเผาขยะขนาดใหญ่ที่เอ็ดมอนตันในลอนดอนซึ่งเปิดใช้งานเมื่อปี ค.ศ. 1974 นั้น เผาขยะได้ประมาณ 400000 ตัน/ปี ความร้อนจากการเปาขยะใช้ต้มน้ำให้เดือดเป็นไอเพื่อไปเดินเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ภายใน 10 ปี โรงงานแห่งนี้สามารถประหยัดถ่านหินได้ถึง 1 ล้านตัน โรงงานเผาขยะเช่นนี้ 6 โรงที่เมืองดุสเซลดอร์ฟในเยอรมนี สามารถผลิตไฟฟ้าที่ใช้ในระบบทำความร้อนทั่วทั้งเขต ส่วนที่พีกสคิลล์ในนิวยอร์ก มีโรงเผาขยะที่เผาได้ถึง 2250ตัน/วัน ซึ่งผลิตกระแสไฟฟ้าได้ถึง 60 เมกะวัตต์ เพียงพอบริการผู้ใช้ 70000 คน
โรงงานอุตสาหกรรมก็อาจใช้ขยะแทนถ่านหินหรือน้ำมันก็ได้ โดยต้องนำขยะมาผ่านกระบวนการที่เหมาะสมก่อน


กระบวนการขั้นแรกคือ การแยกขยะโดยป้อนขยะผ่านตะแกรงร่อนเพื่อนแยกกรองเอาสารอินทรีย์ชิ้นเล็กๆออกมา และนำไปทำปุ๋ยใส่ดินต่อไปในประเทศสวีเดนเขาจะนำ ¼ ของขยะแห้งมาทำเป็นปุ๋ยและนำไปผ่านกระบวนการแปรรูปเพื่อนำมาใช้ประโยชน์
ขั้นต่อไปคือนำขยะหนักซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นโลหะไปแยกออกต่างหาก ขยะที่เหลือจะเป็นเศษกระดาษและเศษผ้าเป็นส่วนใหญ่ เอาส่วนนี้นำมาอัดเป็นเม็ดรูปทรงกระบอกเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิง


แม้แต่ขยะที่ฝังกลบอยู่ก็อาจใช้เป็นเชื้อเพลิงได้ ขณะที่ขยะเริ่มเน่าจะเกิดแก๊สมีเธนซึ่งเป็นสารชนิดเดัยวกับแก๊สธรรมชาติที่พบในโพรงใต้ผิวโลก ขยะแต่ละตันจะให้มีเทนได้มากกว่า 400 ลบ.ม. ถ้าปล่อยทิ้งแก๊สนี้ขึ้นมาสู่ผิวดินและลอยออกไป ซึ่งบางครั้งอาจทำให้เกิดระเบิดขึ้นแต่เราอาจหาทางเก็บแก๊สนี้ไว้โดยไม่ต้องลงทุนมากและนำไปใช้ให้ความร้อนหรือผลิตไฟฟ้าได้ขณะนี้มีโครงการเช่นนี้มากกว่า 140 โครงการใน 15 ประเทศ ซึ่งช่วยประหยัดถ่านหินไปได้มากกว่า 1ล้านตัน/ปี ตัวอย่างเช่นในอังกฤษมีการขุดยอดเนินดินที่ฝังขยะเพื่อนำแก๊สออกมาแล้วส่งตามท่อไปโรงงานทำอิฐเพื่อให้นำไปใช้แทนถ่านหิน
โรงงานอื่นๆที่นำแก๊สนี้มาใช้มักตั้งอยู่ที่แหล่งชยะและนำแก๊สมาใช้เป็นเชื้อเพลิงป้อนเครื่องจักรแบบง่ายๆ วิธีการนี้ทำให้สามารถใช้แก๊สได้ทั้งหมด ซึ่งดีกว่าการพยายามควบคุมปริมาณแก๊สที่ได้ให้มีพอเหมาะกับความต้องการของโรงงานซึ่งเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ


ในอนาคต อาจมีวิธีปรับปรุงการผลิตแก๊สจากเนินขยะให้ได้ผลดียิ่งขึ้น โดยอาศัยการ”เพาะ หว่าน” แบคทีเรียลงไปที่เนินขยะ แบคทีเรียบางสายพันธุ์สามารถสลายขยะได้เร็วกว่าสายพันธุ์อื่นหากผสมแบคทีเรียต่างๆอย่างเหมาะสมลงในเนิน ก็จะทำให้ได้แก๊สปริมาณสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้

วันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2551

การส่งเสริมสุขภาพจิต

การส่งเสริมสุขภาพจิตในระดับบุคคล

วิธีการที่จะส่งเสริมตัวเราให้มีสุขภาพจิตดี มีหลากหลายวีประกอบกันได้แก่
1. การรักษาสุขภาพกายให้แข็งแรงโดย

- ไม่ทำลายสุขภาพของตนเอง ด้วยการ ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ กินยาบ้า หรือยาเสพติดอื่น ๆ
- ไม่ทำงานหักโยมเกินกำลัง
- หาเวลาสำหรับพักผ่อนบ้าง แม้ช่วงสั้น ๆ ก็ยังดี หรือทำงานเบาที่ชอบทำแล้วเกิดความสบายใจ อย่าลืมว่าความไม่เป็นโรคเป็นลาภอันประเสริฐ ถ้าร่างกายสุขสบายไม่เจ็บป่วย ไม่ต้องเสียเสียทองในการรักษาตัวก็ช่วยทำให้ใจสบายได้ในระดับหนึ่ง
2. ไม่เก็บตัว มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนบ้านอย่างเหมาะสม มีน้ำใจกับเพื่อนบ้าน ไม่ห่างเหินแต่ก็ไม่ใกล้ชิดถึงขนาดก้าวก่ายจนเกินไป ความมีน้ำใจเป็นวิธีการผูกมิตรและสร้างสัมพันธ์ไมตรีกับคนรอบ ข้างได้ดีสุด ทำให้ใคร ๆ ก็อยากคบหาสมาคมด้วย คนไม่แล้งน้ำใจจะไม่ขาดเพื่อนหรือรู้สึกโดดเดี่ยวนอกจาก นั้นควรพยายามเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ในชุมชน
3. ฝึกให้มีอารมณ์ขันเป็นนิจ รู้จักพูดเล่น อย่าเคร่งเครียดเอาจริงเอาจังหรือทุ่มเทให้กับบางสิ่งบางอย่างจนหมดสิ้น หัดมองให้เป็นข้อดีในข้อเสีย ข้อเด่นในข้อด้อย และรู้จักหาความสุขได้ง่าย ๆ จากสิ่งรอบตัว
4. สนใจคนรอบข้าง อย่างสนใจแต่ตนเอง เพราะจะทำให้เห็นความทุกข์และรู้สึกสงสารตนเองมากขึ้น แต่การมองว่าคนอื่น ๆ ก็มีทุกข์เช่นกัน ไม่มีใครมีความสุขได้ตลอดเวลา จะทำให้มีความอดทนและมีกำลังที่จะยืนหยัดต่อสู้กับอุปสรรคต่าง ๆ ในชีวิต ที่ผ่านเข้ามาได้
5. ฝึกเป็นคนรู้จักให้อภัยแก่คนอื่นได้ง่าย พยายามเตือนสติตนเองไว้เสมอว่า ความอาฆาตเครียดแค้น เปรียบเสมือนไฟสุมอก และเป็นการสร้างความทุกข์ให้กับตนเองมีคำกล่าวว่า “ สะสมความเครียดแค้นย่อมเกิดภัย สะสมความรักใคร่ย่อมเกิดสุข ” ถ้ารักษาตัวเองก็จงรู้จักให้อภัยผู้อื่น
6. เมื่อมีความทุกขในขั้นแรกให้พยายามปลอบใจตนเอง หรือทำใจให้ว่าง พยายามหยุดคิดถึงเรื่องที่ทำให้ไม่สบายใจ แล้วนึกถึงสิ่งหรือประสบการณ์ที่เคยมีความสุข พอใจสงบลงจึงค่อยหวนคิดว่าสาเหตุของความทุกข์ใจ คืออะไร จะมีวิธีการแก้ไขได้อย่างไร หากไม่สามารถแก้ไขด้วยตัวเองได้ ควรใช้วิธีการปรับทุกข์กับคนใกล้ชิดที่ไว้วางใจ เช่น ญาติพี่น้องเพื่อนสนิท คู่สมรส
7. การทำตนให้เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นและสังคม จะด้วยการอุทิศแรงกาย หรือบริจาคทรัพย์สินแก่ผู้อื่นก็ตาม จะทำให้ตนเองมีคุณค่าและเกิดความภาคภูมิใจในตนเอง
8. การรู้จักทำบุญให้ทาน จะทำให้เกิดความรู้สึกอิ่มเอิบและสุขใจ เพราะคนเราย่อมอยู่ได้ด้วยความหวังความคาดหวังว่าทำดีได้ดี หรือผลบุญจะมีส่วนช่วยให้ชีวิตมีสุข ก็นับเป็นการสร้างความสุขทางใจได้อย่างหนึ่ง แต่ทั้งนี้การทำบุญต้องทำด้วยความรู้จักประมาณตน ทำเท่าที่สามารถทำได้ อย่างทำเกินตัวจนเกิดทุกข์ หรือกลายเป็นการเบียดเบียนตนเองและผู้อื่น การฝึกสมาธิ จะช่วยให้ใจสงบไม่ฟุ้งซ่าน ทำให้เกิดความมั่นคงทางจิตใจ ไม่หวั่นไหวง่าย นับเป็นวิธีการสร้างจิตใจให้แข็งแรงวิธีหนึ่ง



การส่งเสริมสุขภาพจิตในระดับครอบครัว

มีวิธีการง่าย ๆ ที่จะช่วยเสริมสร้างความสุขในครัวเรือน และสรรค์สร้างสุขภาพจิตของคนในครอบครัว ได้แก่
1. การร่วมรับประทานอาหาร อย่างพร้อมหน้าพร้อมตากัน ในช่วงรับประทานอาหารควรเป็นช่วงที่ทุก คนใน บ้านควรมีความสบายใจ และได้มาอยู่ร่วมกันก่อนที่จะออกจากบ้านไปทำงานทำการ หรือหลังจาก เหน็ด เหนื่อยจากการเรียน การทำงานมาแล้วทั้งวัน
2. การพูดจากันด้วยความนุ่มนวลเห็นอกเห็นใจกัน มีการถามทุกข์สุขกัน รู้จักพูดคุยเล่นเย้าหยอกหรือเล่า เรื่องราวสู่กันฟัง
3. การมีน้ำใจต่อสมาชิกในครอบครัว เช่น การช่วยเหลือเมื่อเห็นอีกฝ่ายทำงาน แม้ว่าจะเป็นงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ การช่วยกันทำงานจะทำให้งานเสร็จเร็ว และมีเวลาที่จะพูดคุยกัน หรือมีเวลาที่จะพักผ่อนมากขึ้น
4. การบ่นจะทำให้คนรอบข้างเบื่อหน่าย ดังนั้น หยุดบ่นสักนิด เพื่อสุขภาพจิตคนรอบข้าง
5. ละอบายมุขต่าง ๆ เช่น เล่นการพนัน เล่นไพ่ ชนไก่ ดื่มสุรา เที่ยวกลางคืน ไม่ควรหาทางออกด้วยวิธีการ เหล่านี้ เมื่อมีทุกข์ เพราะจะกลายเป็นทางออกที่ติดเป็นนิสัย อบายมุขเหล่านี้มีแต่ทางเสีย คือ เสียเงิน เสียสุขภาพ เสียอารมณ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่จะทำลายทั้งตนเองและครอบครัวในที่สุด

วันพุธที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2551

บทบาทหน้าที่สำนักงานเลขานุการ

สำนักงานเลขานุการกรม

มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับงานบริหารทั่วไปของกรมฯ งานสารบรรณ งานเลขานุการนักบริหาร งานประสานราชการ งานนิติการ งานประชาสัมพันธ์ ตลอดจนงานอื่น ๆ ที่ไม่ได้อยู่ในอำนาจของกองใดกองหนึ่งโดยเฉพาะ แบ่งงานออกเป็น

1. ฝ่ายสารบรรณ มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการรับ-ส่งหนังสือของกรมฯ งานร่างโต้ตอบต่างๆ การประมวลระเบียบและแนวทางปฏิบัติของทางราชการ งานติดต่อสอบถามงานพิมพ์ ตรวจทานหนังสือ โรเนียว ปรุ ไขถ่ายเอกสาร และปฏิบัติงานอื่นที่เกี่ยวข้องตามที่ได้รับมอบหมาย แบ่งออกเป็น 2 งาน ดังนี้
1.1 งานธุรการทั่วไปมีหน้าที่รับผิดชอบในการร่างโต้ตอบหนังสือราชการต่างๆซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับกองใดกองหนึ่งโดยเฉพาะ การจัดเก็บเอกสาร ควบคุมการเบิกจ่ายพัสดุครุภัณฑ์ การจัดทำงบประมาณการเบิกจ่ายเงิน งานพิมพ์ และโรเนียวต่าง ๆ ของสำนักงานเลขานุการกรม
1.2 งานรับ - ส่งและประมวลระเบียบ มีหน้าที่รับผิดชอบในการรับ-ส่งหนังสือของกรมฯ การเก็บรวบรวม จัดทำทะเบียนและค้นหาระเบียบ คำสั่ง กฎ ข้อบังคับ และระเบียบปฏิบัติต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ในการบริหารราชการของกรมฯ รวมทั้งการบริการติดต่อสอบถามของกรมการพัฒนาชุมชน
2. ฝ่ายช่วยอำนวยการและประสานราชการ มีหน้าที่รับผิดชอบในการปฏิบัติงานเลขานุการนักบริหาร ตรวจสอบความถูกต้องของเรื่องที่จะเสนอผู้บริหาร ประสานงานและติดตามข้อมูลตามแผนงานและโครงการที่ผู้บริหารให้ความสนใจเพื่อวินิจฉัยสั่งการ สรุปและวิเคราะห์เรื่องเพื่อช่วยในการสั่งการของนักบริหาร ติดต่อประสานงานกับส่วนราชการในสังกัดและหน่วยงานอื่น ๆ จัดตารางนัดหมายอำนวยความสะดวกต่าง ๆ งานประชุมผู้บริหารของกรมฯ งานประชุมระดับนโยบายและปฏิบัติงานอื่นที่เกี่ยวข้องตามที่ได้รับมอบหมาย แบ่งออกเป็น 2 งาน ดังนี้
2.1 งานเลขานุการนักบริหาร มีหน้าที่รับผิดชอบในการปฏิบัติงานเลขานุการนักบริหาร ช่วยตรวจสอบความถูกต้องของเรื่องที่จะเสนอผู้บริหาร จัดตารางนัดหมาย อำนวยความสะดวกต่าง ๆ และปฏิบัติงานอื่นที่เกี่ยวข้องตามที่ได้รับมอบหมาย
2.2 งานประสานราชการ มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการติดต่อประสานงานระหว่างราชการส่วนกลางกับศูนย์ช่วยเหลือทางวิชาการพัฒนาชุมชนเขต สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด อำเภอ/กิ่งอำเภอ รวบรวมผลงานและติดตามเร่งรัดการปฏิบัติงาน รวมทั้งสรุปปัญหาและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อประกอบการวินิจฉัยสั่งการ และแก้ไขปัญหาของผู้บริหาร ตลอดจนประสานการจัดประชุมผู้บริหารของกรมฯ และงานประชุมระดับนโยบาย ตลอดจนปฏิบัติงานอื่นที่เกี่ยวข้องตามที่ได้รับมอบหมาย
3. กลุ่มงานนิติการ มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการยกร่างพระราชบัญญัติ พระราชกฤษฏีกา หรือข้อบังคับ ระเบียบ กฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่กรมฯ รับผิดชอบการดำเนินการบังคับคดี และสืบหาหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษา การดำเนินการทางคดีปกครอง การสอบสวนข้อเท็จจริง ยื่นฟ้อง/คำให้การต่อศาลปกครอง หรือส่งสำนวนฯ ให้สำนักงานอัยการสูงสุดในการยื่นฟ้อง หรือยื่นคำให้การแทนกรมฯ การพิจารณาดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องร้องทุกข์ ร้องเรียน กรณีกรมฯ หรือเจ้าหน้าที่กระทำการใด ๆ อันเป็นเหตุให้บุคคล/ประชาชน ได้รับความเสียหาย การวินิจฉัยตีความข้อกฎหมายการดำเนินการเกี่ยวกับการยื่นแบบแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต การสืบสวนสอบสวนข้อมูล ข้อเท็จจริงสรุปเสนอผู้บริหาร การให้คำปรึกษา คำแนะนำในการดำเนินการทางกฎหมายแก่ศูนย์ช่วยเ่หลือทางวิชาการพัฒนาชุมชนเขต สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด และหน่วยงานต่าง ๆ ตลอดจนปฏิบัติงานอื่นที่เกี่ยวข้องตามที่ได้รับมอบหมาย

วันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2551

รักษาโรควิธีชีวจิต

การรักษาโรคโดยวิธีชีวจิต

เนื่องจากได้มีการเผยแพร่เกี่ยวกับการใช้ชีวจิตในการรักษาโรคต่าง ๆ ในสื่อมวลชนรูปแบบต่าง ๆ ในระยะนี้มากมาย ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย และสมาคมวิชาชีพ ได้ปรึกษาหารือศึกษาข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับการใช้ชีวจิตในการรักษาโรคดังนี้ การดูแลรักษาโดยวิธีชีวจิต เป็นการเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิตโดยการปรับเปลี่ยนการรับประทานอาหาร ให้ประกอบไปด้วยผักจำนวนมาก, งดไข่, งดนม โดยได้รับสารอาหารโปรตีนจากปลาบ้างเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีการทำสมาธิ การออกกำลังกายอย่างจริงจัง และมีการสวนอุจจาระด้วยกาแฟ เป็นการดัดแปลงมาจากวิธี มาโครไบโอติค

การศึกษาจากนักโภชนาการและสถาบันวิจัยโภชนาการ พบว่า อาหารในขบวนการชีวจิตนี้ มีไขมันต่ำ, ปริมาณแคลอรี่ต่ำและโปรตีนต่ำ มีวิตามินซี สูง อาจมีประโยชน์ในบางภาวะ เช่นโรคอ้วน, ภาวะไขมันสูง และโรคไต เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม การรับประทานอาหารนี้เป็นเวลานานจะมีปัญหาขาดอาหาร ขาดโปรตีน ขาดแร่ธาตุที่สำคัญ และวิตามินบางชนิดได้ ทั้งนี้เพราะมีแคลอรี่ต่ำเกินไป ประมาณ 1200 แคลอรี่ต่อวัน (คนปกติต้องการ 1600-2000 แคลอรี่) มีโปรตีนต่ำ คือประมาณ 30-40 กรัมต่อวัน (ปกติร่างกายต้องการประมาณ 50-60 กรัม) มีธาตุแคลเซียมและสังกะสีต่ำ ซึ่งมีผลต่อการเจริญเติบโตและภูมิต้านทาน


น้ำ RC การศึกษาน้ำ RC (Rejuvenating Concoction) นั้นพบว่าน้ำดังกล่าวมีสารอาหารต่ำ และมีวิตามิน เพียงร้อยละ 1ของที่ร่างกายต้องการต่อวัน ในแง่คุณภาพที่อ้างว่ามีประโยชน์ประกอบด้วย DNA และ RNA นั้น ก็มีอยู่ในอาหารเกือบทุกชนิด ที่รับประทานตามปกติอยู่แล้ว ส่วนเรื่องเอ็นซัยม์นั้น ร่างกายก็สร้างขึ้นได้เองอยู่แล้ว

ดังนั้น อาหารดังกล่าวจึงไม่ควรใช้ในเด็ก และผู้ป่วยโรคต่าง ๆ หลายอย่าง เนื่องจาก ขาดวิตามิน บี 1 และ 2, ขาดแคลเซียม, เหล็ก, สังกะสี การสวนอุจจาระด้วยกาแฟ นอกจากนี้ การสวนอุจจาระด้วยกาแฟ อาจมีอันตรายจากการสวนอุจจาระ ทำให้ขาดสารน้ำและเกลือแร่ พบว่ามีการติดเชื้อในทางเดินอุจจาระมากขึ้น หากสวนแรงเกินไปอาจทำให้ลำไส้ทะลุ และอาจมีอันตรายจากการ ได้รับการกระตุ้นจากสารคาเฟอีนอีกด้วย ในแง่การรักษาโรคมะเร็งยังไม่มีหลักฐานพิสูจน์ได้ว่า การรักษาวิธีชีวจิตดีกว่าการรักษาในปัจจุบัน

ในผู้ป่วยโรคมะเร็งที่รักษาโดยวิธีการรักษาปัจจุบันแล้วหยุดการรักษา มารักษาโดยวิธีชีวจิตแล้วพบว่า ในปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่ และแข็งแรงดีอยู่นั้น ต้องเข้าใจถึงการดำเนินโรคของมะเร็งแต่ละชนิด เนื่องจากมะเร็งบางอย่าง มีการดำเนินโรคนาน เช่น มะเร็งเต้านม, มะเร็งต่อมน้ำเหลือง ใช้เวลาดำเนินโรคอาจนานถึง 5-10 ปี มะเร็งต่อมธัยรอยด์ อาจใช้เวลาดำเนินโรค 10-20 ปี โดยผู้ป่วยยังมีชีวิตได้เกือบปกติ ถึงแม้จะมีมะเร็งกระจาย ไปในร่างกายบริเวณต่าง ๆ มากมายแล้วก็ตาม นอกจากนั้นมะเร็งบางชนิดสามารถรักษาให้หายได้ด้วยวิธีรักษาแผนปัจจุบัน สรุป การรักษาโดยชีวจิตนั้น เป็นการเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิตและการปรับอาหารที่อาจมีคุณค่า ในโรคบางอย่าง เช่นภาวะอ้วน, ไขมันสูง และโรคไต แต่ต้องระมัดระวังการขาดอาหาร ที่จำเป็นต่อชีวิต ในแง่ผลการรักษาโรคมะเร็งยังไม่มีหลักฐานพิสูจน์ว่าได้ผล ยิ่งกว่านั้นต้องระมัดระวังอันตรายจากการสวนกาแฟ ถ้าจะนำวิธีการชีวจิตมาใช้ ควรศึกษาผลเสียที่อาจเกิดขึ้นและไม่ควรละเลยการรักษาแผนปัจจุบัน ที่เป็นมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับทั่วไป"

วันพุธที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ปัญหาสุขภาพความอ้วน วัยรุ่น

ปัญหาสุขภาพวัยรุ่น ตอน โรคอ้วน ,การกินผิดปกติ anorexia และ บูลีเมีย

ปัญหาสุขภาพวัยรุ่นที่เราจะมาพูดถึงวันนี้ เริ่มกันเลยที่ปัญหาที่พบบ่อย คือปัญหาเกี่ยวกับอัตลักษณ์หรือลักษณะร่างกายของตนเอง วัยรุ่น มีความเป็นตัวของตัวเอง และมักจะตามเพื่อนๆ มีความรู้สึกต้องการเป็นส่วนหนึ่งของเพื่อน การมีเรื่องอ้วน ทำให้วัยรุ่นวิตกกังวลมาก และก่อให้เกิดปัญหาตามมาสองอย่างได้คือ การกินผิดปกติชนิด อโนเร็กเซีย anorexia nervosa และ บูลีเมีย bulemia

โรคอ้วน (Obesity)
ความหมาย : ภาวะที่ร่างกายได้รับพลังงานจากอาหารมากกว่าพลังงานที่ร่างกายใช้ไป ทำให้เหลือพลังงานที่สะสมไว้ในร่างกายในรูปไขมันมากขึ้นแล้วทำให้น้ำหนักร่างกายเพิ่มมากขึ้นในที่สุด
ดัชนีมวลกาย (BMI หรือ body mass index) = น้ำหนัก (กิโลกรัม) /ส่วนสูง เป็นเมตร ยกกำลังสอง
การแปลผล ดัชนีมวลกาย <>
สาเหตุ : พฤติกรรมการบริโภคไม่เหมาะสม ค่านิยมในกลุ่มวัยรุ่น ขาดการออกกำลังกาย กรรมพันธุ์
การดูแลและวิธีแก้ไข : รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ : ข้าวเป็นอาหารหลักสลับกับอาหารประเภทแป้ง ดื่มนม 2-3 แก้ว/วัน ดื่มน้ำ 8-10 แก้ว/วัน หลีกเลี่ยงอาหารรสหวานจัดหรือเค็มจัด ของทอด บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำอัดลม รับประทานอาหารสะอาด ปราศจากการปนเปื้อน งดหรือลดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ กาแฟหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

Anorexia Nervosa
ความหมาย : เป็นภาวะที่บุคคลปฏิเสธที่จะรับประทานอาหารเพื่อคงน้ำหนักไว้ในระดับปกติ โดยมีทัศนคติที่ผิดต่อรูปร่างและน้ำหนักตัวผิดปกติ สาเหตุ : พันธุกรรม ปัจจัยเกี่ยวกับตัววัยรุ่น : มักเป็นวัยรุ่นที่เป็น “เด็กดี” “เด็กตัวอย่าง” ของครอบครัว มีบุคลิกภาพที่สมบูรณ์แบบ (perfectionist) ย้ำคิดย้ำทำ ขาดทักษะในการใช้ชีวิตในสังคม,มีความเป็นตัวของตัวเอง มีปัญหาความขัดแย้งในจิตใจเรื่องความเป็นตัวของตัวเอง รู้สึกไม่มีค่า มักทำตามความคาดหวังของผู้อื่นเพื่อให้ผู้อื่นยอมรับ


การมองภาพตนเองบิดเบือน : มองเห็นสัดส่วนร่างกายอ้วนไป ทั้งๆที่ไม่ได้อ้วน
มักปฏิเสธว่าไม่หิว ไม่ป่วย บอกว่าสบายดี
มักแยกแยะความหิวไม่ได้
ปัจจัยที่เกี่ยวกับครอบครัว : ถูกเลี้ยงดูแบบใกล้ชิดหรือปกป้องมากเกินไป
ปัจจัยทางสังคม : ค่านิยมยึดติดอยู่กับความผอมบาง ต้องการสวย
เชื่อว่าผู้หญิงผอม คือ แฟชั่น
คิดว่าคนอ้วนเป็นคนที่ดูแลตนเองไม่ดี หรือคิดว่าคุณค่าวัยรุ่น
ขึ้นอยู่กับรูปร่างหน้าตาที่น่ารักหรือหุ่นดี
ปัจจัยทางพัฒนาการ : การที่วัยรุ่นมีวิกฤติของชีวิต เช่น ความต้องการเป็นตัวของตัวเอง ค่านิยม สัมพันธภาพกับผู้อื่น บางครั้งอาจเกิดความขัดแย้งกับบิดามารดา โดยเฉพาะการมีสัมพันธภาพกับเพื่อนต่างเพศ
การดูแลและวิธีแก้ไข : เสริมให้วัยรุ่นมีความเชื่อมั่นในตนเอง เสริมพลังอำนาจในตนเองให้รู้สึกว่าสามารถควบคุมเหตุการณ์ต่างๆได้ เรียนรู้ที่จะเคารพตนเอง เชื่อว่าตนเองเป็นอิสระ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับพ่อแม่ ครอบครัวหรือ สังคมเท่านั้นรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และครบ 5 หมู่ ส่งเสริมทักษะในการใช้ชีวิตในสังคมร่วมกับผู้อื่น เสริมทัศนคติที่ดีในการเข้าใจรูปลักษณ์ของตนเอง

Bulimia nervosa
ความหมาย : บุคคลที่รับประทานอาหารมากผิดปกติเป็นช่วงๆ (Binge-eating) โดยควบคุมไม่ได้แล้วใช้วิธีที่ไม่เหมาะสมเพื่อไม่ให้น้ำหนักเพิ่ม เช่น ตั้งใจอดอาหาร ล้วงคอ อาเจียน ใช้ยาระบาย ยาขับปัสสาวะหรือออกกำลังกายอย่างหนักเพื่อลดน้ำหนัก สาเหตุ : พันธุกรรม(Genetic) ความรู้สึกมีคุณค่าในตนเองต่ำ (Low self esteem) มีบุคลิกภาพแบบหลีกเลี่ยง (Avoidant) และพึ่งพา (Dependence) ปัจจัยทางสังคม (เช่นเดียวกับ Anorexia Nervosa) ปัจจัยทางพัฒนาการ (เช่นเดียวกับ Anorexia Nervosa) การดูแลและวิธีแก้ไข : (เช่นเดียวกับ Anorexia Nervosa)

วันอังคารที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ทักษิณ ชินวัตร

ทักษิณยกครอบครัว เดินยิ้มร่า ช็อปปิ้งที่ลอนดอน
หลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายก รัฐมนตรีและคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา หลบหนีไม่มารายงานตัวต่อศาลฎีกาฯ และแจกแถลงการณ์ว่าจะไม่กลับประเทศไทย เนื่องจากไม่ไว้ใจเรื่องความปลอดภัยนั้น ล่าสุด พ.ต.ท.ทักษิณและครอบครัวได้แสดงตัวเปิดเผยต่อสาธารณชน ด้วยการไปเดินช็อปปิ้งย่านธุรกิจกรุงลอนดอนอย่างสบายใจ
เมื่อวันที่ 12 ส.ค. สำนักข่าวเอพีรายงานความเคลื่อนไหวล่าสุดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า วันเดียวกันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณได้เดินทางไปช็อปปิ้งที่ย่านกิลฟอร์ด เซอร์เรย์ กรุงลอนดอน พร้อมด้วยสมาชิกในครอบครัวครบทุกคน ขณะเดียวกัน เว็บไซต์ เดลี่เมล์ออนไลน์ (dailymail.co.uk) ของอังกฤษได้ เผยแพร่ภาพ พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมาน ชินวัตร นายพานทองแท้ ชินวัตร น.ส.พินทองทา ชินวัตร รวมถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เดินเล่นร่วมกัน ทั้งยังมีคำบรรยายเพิ่มเติมว่า บรรยากาศช็อปปิ้งเป็นไปอย่างสบายๆ และทั้งหมดยิ้มแย้มแจ่มใสดี

พรีเมียร์ลีกจี้สอบคุณสมบัติทักษิณ
สำนักข่าวเอพีสัมภาษณ์นายริชาร์ด สคูดามอร์ ประธานบริหารพรีเมียร์ลีกของอังกฤษ เมื่อวันอังคาร (12 ส.ค.) เพื่อสอบถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเป็นเจ้าของและผู้บริหารสโมสรฟุตบอลอังกฤษอยู่หรือไม่ หลังจาก พ.ต.ท.ทักษิณไม่ยอมรายงานตัวต่อศาลไทยตามกำหนด และขอลี้ภัยอยู่ในอังกฤษแทนการกลับมาสู้คดีที่ยังคั่งค้าง ซึ่งนายสคูดามอร์ยืนยันว่า พรีเมียร์ลีกไม่เพิกเฉยต่อเรื่องดังกล่าว แต่ต้องขอปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายต่างประเทศเสียก่อน เพราะขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณยังไม่ถูกตัดสินว่ามีความผิด จึงไม่อาจดำเนินการใดๆ แต่ถ้ามีหลักฐานชัดเจนว่า พ.ต.ท. ทักษิณกระทำผิดกฎหมายก็จะถูกตัดสินให้หมดคุณสมบัติในการเป็นเจ้าของและผู้บริหารสโมสรฟุตบอลทันที เพราะเมื่อเดือน ก.ค.2550 ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณเข้ามาเป็นเจ้าของและผู้บริหารสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในระยะแรกก็ถูกองค์กรสิทธิมนุษยชนฮิวแมนไรท์วอทช์โจมตีว่าไม่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้เช่นกัน

นักวิเคราะห์ชี้ทักษิณลี้ภัยเป็นเรื่องดี
นอกจากนี้ สำนักข่าวต่างประเทศยังรายงานคำพูดของนายฐิตินันท์ พงษ์สุทธิรักษ์ อาจารย์จากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งระบุว่า การตัดสินใจลี้ภัยเป็นช่วงเวลามืดมนที่สุดในชีวิตการเมืองของ พ.ต.ท. ทักษิณ แต่ถือเป็นโอกาสอันดีของผู้ต่อต้านทักษิณที่จะใช้ช่วงเวลานี้เยียวยาความแตกแยกในสังคม และสกัดกั้นมิให้ทักษิณกลับคืนสู่อำนาจทางการเมือง แต่นายคริส เบเกอร์ นักประวัติศาสตร์ไทย กลับมองว่า อิทธิพลของทักษิณยังไม่หมดไปจากสังคมไทย และการต่อสู้ทางการเมืองระหว่างกลุ่มอำนาจทั้ง 2 ขั้วยังคงต่อเนื่องไปอีกสักพักใหญ่ ส่วนนายกวี ชูกิจเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย กล่าวว่าทิศทางทางการเมืองของไทยมีความชัดเจนมากขึ้น ทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่นายกวีย้ำว่า กลุ่มพันธมิตรฯ และผู้ต่อต้านระบอบทักษิณต้องเปิดโอกาสให้มีการเจรจากับทุกฝ่ายเพื่อหาทางสมานฉันท์ และทำให้บรรยากาศทางการเมืองคลายความตึงเครียด
สั่งพิจารณาถอนพาสปอร์ตทูต
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณถูกศาลออกหมายจับจะมีผลต่อหนังสือเดินทางทางการทูตหรือพาสปอร์ตเล่มแดงหรือไม่ นายเตชตอบว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศกำลังพิจารณาเรื่องนี้อยู่ ส่วนจะถอนหรือไม่ถอนต้องไปดูในกฎเกณฑ์ของกระทรวง ซึ่งจะมีการพิจารณาเรื่องนี้ ในโอกาสแรกที่จะทำได้คือให้เป็นไปตามกฎหมายไทยและกฎของกระทรวง ขณะนี้คำสั่งศาลที่ออกหมายจับก็ต้องแจ้งมายังกระทรวงการต่างประเทศอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ทางกระทรวงโดยรักษาการปลัดกระทรวงการต่างประเทศกำลังพิจารณาอยู่ เนื่องจากตนและปลัดกระทรวงเดินทางมาเยือน สปป.ลาว และก่อนออกเดินทางก็ยังไม่ทราบความคืบหน้าใดๆ

วันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ระบบสารสนเทศ

ระบบสารสนเทศ (Information system)

ระบบสารสนเทศ (Information system) หมายถึง ระบบที่ประกอบด้วยส่วนต่างๆ ได้แก่ ระบบคอมพิวเตอร์ทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์ ระบบเครือข่าย ฐานข้อมูล ผู้พัฒนาระบบ ผู้ใช้ระบบ พนักงานที่เกี่ยวข้อง และ ผู้เชี่ยวชาญในสาขา ทุกองค์ประกอบนี้ทำงานร่วมกันเพื่อกำหนด รวบรวม จัดเก็บข้อมูล ประมวลผลข้อมูลเพื่อสร้างสารสนเทศ และส่งผลลัพธ์หรือสารสนเทศที่ได้ให้ผู้ใช้เพื่อช่วยสนับสนุนการทำงาน การตัดสินใจ การวางแผน การบริหาร การควบคุม การวิเคราะห์และติดตามผลการดำเนินงานขององค์กร

ระบบสารสนเทศ หมายถึง ชุดขององค์ประกอบที่ทำหน้าที่รวบรวม ประมวลผล จัดเก็บ และแจกจ่ายสารสนเทศ เพื่อช่วยการตัดสินใจ และการควบคุมในองค์กร ในการทำงานของระบบสารสนเทศประกอบไปด้วยกิจกรรม 3 อย่าง คือ การนำข้อมูลเข้าสู่ระบบ (Input) การประมวลผล (Processing) และ การนำเสนอผลลัพธ์ (Output) ระบบสารสนเทศอาจจะมีการสะท้อนกลับ (Feedback) เพื่อการประเมินและปรับปรุงข้อมูลนำเข้า ระบบสารสนเทศอาจจะเป็นระบบที่ประมวลด้วยมือ(Manual) หรือระบบที่ใช้คอมพิวเตอร์ก็ได้(Computer-based information system –CBIS) (Laudon & Laudon, 2001) แต่อย่างไรก็ตามในปัจจุบันเมื่อกล่าวถึงระบบสารสนเทศ มักจะหมายถึงระบบที่ต้องอาศัยคอมพิวเตอร์และระบบโทรคมนาคม

ระบบสารสนเทศ หมายถึง ระบบคอมพิวเตอร์ที่จัดเก็บข้อมูล และประมวลผลเป็นสารสนเทศ และระบบสารสนเทศเป็นระบบที่ต้องอาศัยฐานข้อมูล (CIS 105 -- Survey of Computer Information Systems, n.d.)

ระบบสารสนเทศ หมายถึง ชุดของกระบวนการ บุคคล และเครื่องมือ ที่จะเปลี่ยนข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ (FAO Corporate Document Repository, 1998) ระบบสารสนเทศ ไม่ว่าจะเป็นระบบมือหรือระบบอัตโนมัติ หมายถึง ระบบที่ประกอบด้วย คน เครื่องจักรกล(machine) และวิธีการในการเก็บข้อมูล ประมวลผลข้อมูล และเผยแพร่ข้อมูล ให้อยู่ในลักษณะของสารสนเทศของผู้ใช้ (Information system, 2005)

สรุปได้ว่า ระบบสารสนเทศ ก็คือ ระบบของการจัดเก็บ ประมวลผลข้อมูล โดยอาศัยบุคคลและเทคโนโลยีสารสนเทศในการดำเนินการ เพื่อให้ได้สารสนเทศที่เหมาะสมกับงานหรือภารกิจแต่ละอย่าง

Laudon & Laudon (2001) ยังอธิบายว่าในมิติทางธุรกิจ ระบบสารสนเทศเป็นระบบที่ช่วยแก้ปัญหาการจัดการขององค์กร ซึ่งถูกท้าทายจากสิ่งแวดล้อม ดังนั้นการใช้ระบบสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ จำเป็นที่จะต้องเข้าใจองค์กร(Organzations) การจัดการ (management) และเทคโนโลยี (Technology)



ประเภทของระบบสารสนเทศ

ปัจจุบันจะเห็นความสัมพันธ์ระหว่างองค์กร กับระบบสารสนเทศ และเทคโนโลยีสารสนเทศชัดเจนมากขึ้น และเนื่องจากการบริหารงานในองค์กรมีหลายระดับ กิจกรรมขององค์กรแต่ละประเภทอาจจะแตกต่างกัน ดังนั้นระบบสารสนเทศของแต่ละองค์กรอาจแบ่งประเภทแตกต่างกันออกไป

ถ้าพิจารณาจำแนกระบบสารสนเทศตามการสนับสนุนระดับการทำงานในองค์กร จะแบ่งระบบสารสนเทศได้เป็น 4 ประเภท ดังนี้ (Laudon & Laudon, 2001)

1. ระบบสารสนเทศสำหรับระดับผู้ปฏิบัติงาน (Operational – level systems) ช่วยสนับสนุนการทำงานของผู้ปฏิบัติงานในส่วนปฏิบัติงานพื้นฐานและงานทำรายการต่างๆขององค์กร เช่นใบเสร็จรับเงิน รายการขาย การควบคุมวัสดุของหน่วยงาน เป็นต้น วัตถุประสงค์หลักของระบบนี้ก็เพื่อช่วยการดำเนินงานประจำแต่ละวัน และควบคุมรายการข้อมูลที่เกิดขึ้น

2. ระบบสารสนเทศสำหรับผู้ชำนาญการ (Knowledge-level systems) ระบบนี้สนับสนุนผู้ทำงานที่มีความรู้เกี่ยวข้องกับข้อมูล วัตถุประสงค์หลักของระบบนี้ก็เพื่อช่วยให้มีการนำความรู้ใหม่มาใช้ และช่วยควบคุมการไหลเวียนของงานเอกสารขององค์กร

3. ระบบสารสนเทศสำหรับผู้บริหาร (Management - level systems) เป็นระบบสารสนเทศที่ช่วยในการตรวจสอบ การควบคุม การตัดสินใจ และการบริหารงานของผู้บริหารระดับกลางขององค์กร

4. ระบบสารสนเทศระดับกลยุทธ์ (Strategic-level system) เป็นระบบสารสนเทศที่ช่วยการบริหารระดับสูง ช่วยในการสนับสนุนการวางแผนระยะยาว หลักการของระบบคือต้องจัดความสัมพันธ์ระหว่างสภาพแวดล้อมภายนอกกับความสามารถภายในที่องค์กรมี เช่นในอีก
5. ปีข้างหน้า องค์กรจะผลิตสินค้าใด

ก๊าซธรรมชาติในไทย

ก๊าซธรรมชาติในประเทศไทย

ก๊าซธรรมชาติในประเทศไทยมีเท่าใด ก๊าซธรรมชาติในประเทศไทยมีเท่าใดแน่ ถ้าถามออกไปว่า ก๊าซธรรมชาติในประเทศไทยมีมากน้อยเท่าใด จะใช้ได้อีกกี่ปี ท่านคงได้คำตอบกลับมาหลากหลาย ฝ่ายหนึ่งก็บอกว่าหมดใน 18 ปี อีกฝ่ายก็บอกว่ามีใช้ได้ 50 ปี ถึงเวลานั้นก็มีเทคโนโลยีพลังงานประเภทอื่นมาทดแทนแล้ว จริงแล้วปริมาณสำรองก๊าซธรรมชาติ ที่มีการกล่าวอ้างถึงนั้น พอแยกได้เป็น 3 ระดับ คือ
Proved Reserve คือ ปริมาณสำรองที่พิสูจน์แล้ว มีความมั่นใจที่จะผลิตได้ในอนาคตจากแหล่งสำรวจที่พบแล้ว ภายใต้สภาพเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ในขณะนั้น โดยทั่วไปมีความน่าจะเป็นเกินกว่า 90% Probable Reserve คือ ปริมาณสำรองที่มีความเชื่อมั่นและเป็นไปได้ในการผลิตได้ในอนาคตจากแหล่งสำรวจที่พบแล้ว ภายใต้สภาพเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ในขณะนั้น โดยทั่วไปมีความน่าจะเป็นเกินกว่า 50% Possible Reserve คือ ปริมาณสำรองที่เป็นไปได้หรืออาจจะเป็นในการผลิตได้ในอนาคตจากแหล่งสำรวจที่พบแล้ว ภายใต้สภาพเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ในขณะนั้น แต่มีความเชื่อมั่นและเป็นไปได้ในการผลิตเกินกว่า 10% ทั้งนี้การนำไปใช้งาน จะแบ่งเป็น
1P เฉพาะปริมาณสำรองที่พิสูจน์แล้ว
2P ปริมาณสำรองที่พิสูจน์แล้ว รวมกับ Probable Reserve
3P ปริมาณสำรองที่พิสูจน์แล้ว รวมกับ Probable Reserve และ Possible Reserve

จากข้อมูลปริมาณการสำรองก๊าซธรรมชาติในประเทศของกรมทรัพยากรธรณี ณ 31 ธันวาคม 2543 โดยแหล่งสำรองก๊าซฯ ในประเทศไทยจะประกอบด้วย แหล่งอ่าวไทย ซึ่งรวมพื้นที่คาบเกี่ยว ไทย – มาเลเซีย แหล่งที่ราบสูงโคราช และแหล่งที่ราบภาคกลาง หากเป็นสำรอง 1P จะมีปริมาณ 12.7 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต 2P จะมีปริมาณ 22.3 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต และ 3P จะมีปริมาณ 33.7 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต

อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยมีการใช้ก๊าซธรรมชาติจากประเทศเพื่อนบ้านด้วย ได้แก่ พม่า (แหล่งยาดานา และแหล่งเยตากุน) ซึ่งปัจจุบันมีการนำเข้าจากสหภาพพม่าวันละ 2,000ล้านลูกบาศก์ฟุต และในอนาคตก็อาจรับซื้อจากที่อื่น ได้แก่ เวียดนาม และพื้นที่คาบเกี่ยวไทย – กัมพูชา โดยปริมาณสำรองก๊าซธรรมชาติ ในส่วนที่สามารถพัฒนานำมาใช้ในประเทศไทยได้อยู่ในระดับ 9.5 – 19.7 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต

สำหรับข้อมูลปริมาณสำรองก๊าซฯ 1P ในประเทศ เป็นปริมาณสำรองที่พิสูจน์แล้ว มีความแน่นอนมากที่สุด ซึ่งเป็นเครื่องชี้ให้เห็นถึงแหล่งพลังงานในประเทศว่ามีมากน้อยเพียงใด ในการคำนวณอายุการใช้งานของก๊าซธรรมชาติ จะคำนวณโดยนำปริมาณสำรองก๊าซฯ มาหารด้วยปริมาณความต้องการใช้ก๊าซฯ ทั้งนี้ปริมาณสำรองก๊าซฯ จะขึ้นอยู่กับการเลือกใช้นิยามปริมาณสำรอง 1P 2P หรือ 3P โดยในการวางแผนมักจะใช้ 1P หรือ 2P เพราะค่อนข้างมีความแน่นอน ส่วนปริมาณความต้องการใช้ก๊าซฯ อาจจะเลือกใช้ความต้องการใช้ก๊าซฯ คงที่เท่ากับในปัจจุบัน (คือประมาณ 1 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต/ปี) หรือปริมาณที่เปลี่ยนแปลงไปตามคาดการณ์ในอนาคตก็ได้ สำหรับความต้องการใช้ก๊าซฯ นั้น ปตท. ได้ประมาณว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 2,444 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ในปี 2545 เป็น 3,914 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ในปี 2559

ดังนั้นการคำนวณอายุการใช้งานของก๊าซฯ หากใช้ปริมาณสำรอง 1P ของทั้งแหล่งในประเทศและในประเทศเพื่อนบ้าน และใช้ประมาณการความต้องการใช้ก๊าซฯ ที่เพิ่มขึ้นตามการพยากรณ์ของ ปตท. ซึ่งผลที่ได้จะสามารถใช้ก๊าซฯ ได้อีก 18 ปี หากใช้ปริมาณสำรอง 2P (Proved + Probable) สำหรับแหล่งในประเทศ และในประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีความต้องการใช้ก๊าซฯ เพิ่มขึ้นตามการประมาณการของ ปตท. จะมีก๊าซฯ ใช้ได้รวมทั้งหมดอีก 24 ปี อย่างไรก็ตามหากใช้ปริมาณ 3P ของทั้งแหล่งในประเทศ และในประเทศเพื่อนบ้าน และแม้ว่าปริมาณการใช้ก๊าซฯ ไม่เพิ่มขึ้น ประเทศไทยก็จะมีก๊าซใช้อีก 50 ปี แต่ 3P นี้มีความไม่แน่นอนสูง

สรุปสุดท้ายค่ะ
ยานยนต์ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง หรือ NGV ได้มีการนำมาใช้ในหลายๆ ประเทศ เกือบทั่วทุกภูมิภาคของโลก แต่อัตราการเพิ่มยังไม่มากนักเมื่อเทียบกับยานยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง ทั้งนี้เนื่องจากยานยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีมานานกว่า อย่างไรก็ตามรูปข้างล่างแสดงให้เห็นถึงปริมาณการค้าขายน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากประเทศผู้ผลิตสู่ลูกค้านานาประเทศทั่วโลกในปี พ.ศ. 2546 ซึ่งพบว่ามีการใช้น้ำมันกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก แต่การใช้ก๊าซธรรมชาตินั้นค่อนข้างจำกัดอยู่ในบางพื้นที่เท่านั้น เช่น ทวีปยุโรปและทวีปอเมริกา

วันพฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2551

พลังงานทดแทนในประเทศไทย

พลังงานทดแทนในประเทศไทย

เชื้อเพลิงต่างๆ ที่นำมาใช้ผลิตกระแสไฟฟ้า เช่น น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน เป็นต้น นับวันจะมีปริมาณน้อยลงทุกที และคงจะต้องหมดไปในอนาคต นอกจากนี้ ราคาของเชื้อเพลิงดังกล่าวยังมีความผันผวนไปในแนวทางที่สูงขึ้นตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองของ โลก และถึงแม้ว่าจะมีการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังน้ำ ซึ่งเป็นพลังงานหมุนเวียนก็ตาม แต่ก็มีสัดส่วนที่น้อยมาก รวมทั้งแหล่งน้ำที่สามารถจะพัฒนาเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้ายังมีน้อยลง และต้องประสบกับปัญหาการคัดค้านขององค์กรกลุ่มต่างๆ อีกด้วย ดังนั้น จึงมีความพยายามที่จะคิดค้นแหล่งพลังงานใหม่ๆ ที่ประหยัดและไม่มีวันหมดสิ้น บางชนิดก็นำมาใช้บ้างแล้ว เช่น น้ำขึ้น-น้ำลง คลื่น (ทะเล) ความร้อนจากมหาสมุทร แสงอาทิตย์ ลม และความร้อนใต้พิภพ เป็นต้น แต่ก็ยังมีข้อจำกัดในการพัฒนา เช่น มีราคาแพง ใช้เวลาก่อสร้างนาน หรือบางประเทศไม่มีศักยภาพของแหล่งพลังงานดังกล่าวเพียงพอ เป็นต้น

พลังงานลม
พลังงานลม เป็นพลังงานธรรมชาติที่สะอาดและบริสุทธิ์ ใช้แล้วไม่มีวันหมดสิ้นไปจากโลก จึงทำให้พลังงานลมได้รับความสนใจในการศึกษาและพัฒนาให้เกิดประโยชน์กันอย่างกว้างขวาง ในขณะเดียวกัน กังหันลม ก็เป็นอุปกรณ์ชนิดหนึ่งทีสามารถนำพลังงานลมมาใช้ให้เป็นประโยชน์ได้ โดยเฉพาะในการผลิตกระแสไฟฟ้าและการสูบน้ำ ซึ่งมีการใช้งานกันมาแล้วอย่างแพร่หลายในอดีตที่ผ่านมา





สถานีพลังงานลมทดแทนพรหมเทพ จังหวัดภูเก็ต

ในปี พ.ศ. 2526 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้เลือกบริเวณแหลมพรหมเทพ จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นจุดที่มีข้อมูลบ่งชี้ว่า มีความเร็วลมเฉลี่ยตลอดปี ประมาณ 5 เมตรต่อวินาที เป็นสถานที่ตั้งของสถานีทดลองการผลิตไฟฟ้าจากกังหันลม ใช้ชื่อว่า สถานีพลังงานทดแทนพรหมเทพ โดยตั้งอยู่ทางทิศเหนือของแหลมพรหมเทพ ประมาณ 1 กิโลเมตร

พลังงานแสงอาทิตย์
พลังงานแสงอาทิตย์ เป็นพลังงานสะอาดไม่ทำปฏิกิริยาใดๆ อันจะทำให้สิ่งแวดล้อมเป็นพิษ เซลล์แสงอาทิตย์ จึงเป็นสิ่งประดิษฐ์ทางอิเลคทรอนิคส์ชนิดหนึ่งที่ถูกนำมาใช้ผลิตไฟฟ้า เนื่องจาก สามารถเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้าได้โดยตรง ปัจจุบันในประเทศไทย มีหลายหน่วยงาน ได้ทำการติดตั้งเซลล์แสงอาทิตย์เพื่อใช้งานในลักษณะต่างๆ กัน

ผลิตภัณฑ์พลังงานแสงอาทิตย์
  • เครื่องทำน้ำร้อนพลังงานแสงอาทิตย์ผลิตน้ำร้อนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ทดแทนการใช้ไฟฟ้า คุ้มค่าแก่การลงทุนมีให้เลือกใช้ทั้งขนาดใหญ่ที่ใช้กับ โรงแรม โรงงานอุตสาหกรรม และมีขนาดครอบครัวให้เลือกใช้หลายขนาด ตามความเหมาะสม

  • ตู้อบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ช่วยให้เวลาในการตากแห้งเร็วขึ้นกว่าแบบทั่วๆ ไป ป้องกันแมลงที่เป็นพาหะนำโรค เช่น แมลงวัน มารบกวน ทำให้อาหารที่ได้จากการตากแห้ง มีความสะอาดถูกหลักอนามัย ใช้งานและดูแลรักษาง่าย นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันฝน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้วัตถุดิบไม่แห้งและเกิดความเสียหายได้

  • เครื่องสกัดสารป้องกันและกำจัดศัตรูพืชโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์เทคโนโลยีสมัยใหม่ผสมผสานกับภูมิปัญญาท้องถิ่นของคนไทย เพื่อสกัดสารชีวภาพจากพืชสมุนไพร นำไปฉีดพ่นพืชผัก ผลไม้ ป้องกันและกำจัดศัตรูพืช โดยไม่ต้องใช้สารเคมี เป็นการลดต้นทุนการผลิตและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

วันจันทร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2551

งานที่เลขานุการต้องปฏิบัติ

เลขานุการกับการใช้อีเมล

ทำไมต้องเขียนเรื่องอีเมลอีก เคยเขียนเรื่องอีเมล มาสัก 2-3 ครั้งแล้วเพราะเริ่มได้รับอีเมลจากกลุ่มที่ search บทความของเราเจอใน google เป็นส่วนใหญ่ คงไม่ได้โฆษณาให้เขาเพราะมันเช็คได้ใน counter ที่กำหนดไว้นั้นเอง และยังมีอีเมลต่างๆ ที่ได้รับจากผู้ที่สนใจเข้ามาทักทายและได้เคยพบปะกันมาแล้ว เมื่อมีบทความที่เกี่ยวข้องกับบุคคลผู้นั้นก็คิดว่า เขาน่าจะได้อ่าน ถึงไม่เป็นประโยชน์ในวันนี้ แต่วันหน้าก็คงจะได้ใช้บ้าง

สิ่งที่พบในการรับอีเมล ทั้งผู้ที่รู้จักกันเป็นขาประจำหรือพวกขาจร (search เจอ) ก็เข้ามาทักทาย ติบ้างชมบ้างก็ว่ากันไป เพราะข้อมูลที่นำขึ้นไปเผยแพร่ ต้องยอมรับว่า มันถึงจุดที่จะบอกว่า ถ้าไม่กล้านำเสนอแล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า มีใครอ่านเรื่องของเราบ้าง ดังนั้น การวิพากษ์ก็ถือเป็นเรื่องปกติที่จะต้องยอมรับได้ จะได้นำมาพัฒนางานเขียน (ไม่รู้จะได้เรื่องหรือเปล่า) ของตนเอง ซึ่งก็ยอมรับว่า บางครั้งมันก็แรงจนเกือบจะรับไม่ได้ แต่ก็ต้องเขียน เพราะเรามั่นใจว่า งานเขียนเรื่องเหล่านี้หาได้ค่อนข้างยาก เพราะตำแหน่งเลขานุการที่นับวันก็เริ่มจะร่อยหรอไปทุกที

ที่พูดเสียยึดยาวก็ จะมาจบที่เรื่อง อีเมล ว่า มีจำนวนคนใช้เพิ่มมากขึ้น (นับเฉพาะคนใกล้ๆ ตัวเรา) ที่เห็นได้ชัดว่า มีทั้งนักเรียน นักศึกษา อาชีพที่เกี่ยวข้องติดต่อกันมา และที่เห็นก็คือ การสนุกสนานกับการใช้พื้นที่ติดต่อกันไม่ว่าจะเป็น msn, space, hi5 หรือการแสดงความคิดเห็นต่างๆ ที่ต้องมีอีเมลถึงจะแสดงความคิดเห็นหรือเข้าไปใช้ได้ ไอ้ที่จะพูดถึง เป็นเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องอีกนั้นแหละ ว่า ตกลงคนที่ใช้อีเมล มีจำนวนมากที่ส่งเป็นแต่ยังมีอีกหลายเรื่องที่พบเห็นบ่อยๆ เอ้ามาดูแต่ละข้อดังนี้
  • การเขียนจดหมายโดยไม่ compose หรือ สร้างอีเมลใหม่ แต่ใช้อีเมล ฉบับเดิมที่เคยติดต่อกันไปมา หากเป็นเมื่อปีก่อนหน้านั้น ก็ยังไปค้นหามาได้ ถ้าจะเดาเรื่องนี้ ก็น่าจะเดาได้ว่า ยังไม่รู้วิธีการเก็บชื่อที่อยู่ที่ติดต่อ ในอีเมลแต่ละชนิด
  • ให้ที่อยู่อีเมลที่ไม่ได้ใช้งาน เพราะอีเมลจะตอบกลับด้วยสำนวน Delivery to the following recipient failed permanently: เลยไม่รู้ว่า ตกลงคงจะมีอีเมลหลายชื่อ จนสับสนว่า บางชื่อมันหมดอายุการใช้งานไปแล้ว
  • ส่งอีเมลไปแล้ว ไม่เคยตอบ ทั้งๆ ที่เปิดอ่าน อ้าวแล้วรู้ได้อย่างไร มีโปรแกรมแจกฟรีที่เคยใช้และอยากทดลองเพื่อให้รู้ว่าบุคคลปลายทางที่เราส่งอีเมลไปให้นั้นเปิดอ่านวันเวลาใด เคยทดลองใช้ก็รู้ว่ามีการเปิดอ่านจริงแต่ไม่ยักกะตอบ ตอนหลังก็เลยไม่นำโปรแกรมนั้นมาใช้อีก เพราะก็ไม่รู้จะติดไว้ทำไมพอรู้ว่า เขาเปิดอ่านแล้วไม่ตอบก็เกิดความรู้สึกอีก
  • โทรศัพท์แจ้งว่า ได้ส่งอีเมลมาให้ ฟังแล้วจะงง! ก็จะบอกงัยว่า ได้ส่งอีเมลให้แล้วไปเปิดอ่านเสีย double standard รายนี้สงสัย เป็นอะไรกับบริษัทมือถือแน่ๆ กลัวเขาจนหรืองัย แต่ถ้ามีการแนบข้อมูลมาให้อันนี้ไม่ว่า เจ๊ากันไป
  • ใช้หัวข้อเรื่องในการเขียนจดหมาย อันนี้ก็น่าจะงง!! คือ เรื่องมีอยู่ว่า อยากได้ข้อมูล.... แล้วคลิกส่งเลย ที่จริงฟรีอีเมลบางชนิด จะไม่สามารถส่งได้เพราะเมื่อคลิกส่ง จะมีข้อความสอบถามก่อน แต่บางอีเมลก็ส่งมาได้เลย ครั้งแรกที่รับก็คิดว่า คงจะคลิกผิดหรือเปล่า น่าจะมีข้อความอะไรอยู่บ้าง ก็รอฉบับต่อไป ก็ไม่ปรากฏเงาของเจ้าของอีเมลลึกลับนี้อีกเลย
  • ขอข้อมูล มีอีเมลหลายฉบับขอข้อมูลที่เขียน ด้วยความที่มีความหวังดี เพราะในอีเมลระบุว่า จะรอความหวัง (ซะงั้น) จากเรา รีบค้นหาทันทีตอบพร้อมแนบไฟล์อธิบาย จำได้ไม่น่าจะเกิน 1 วัน เลยพบว่า เจ้าของอีเมลฉบับนั้นคงจะได้รับข้อมูลจากคนอื่นไปเรียบร้อยแล้ว ผิดที่เราเองช้า... จนบัดนี้ก็ยังไม่ได้รับตอบ “ขอบคุณ” เลย เอ้อ! มันพิมพ์ยากคำๆ นี้ เพราะแป้นอักษรมันอยู่ด้านขวาเกือบหมดเนี่ยนะ ไม่ลบข้อมูลในอีเมล จนอีเมลที่ส่งไปไม่สามารถส่งได้บอกว่า ข้อมูลเต็ม แต่วันนี้ฟรีอีเมลทั้งหลายก็ให้ขนาดของพื้นที่บรรจุมากมายมหาศาล เดาเอาว่า ไม่เคยลบอีเมลขยะทั้งหลาย พวกโฆษณาขายสินค้านานัปการ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับสมรรถนะทางเพศ หรืออาจจะเป็นเพราะว่า ยังไม่ได้ใช้ระบบการกรองข้อมูล
  • ไม่ลบข้อมูลในอีเมล จนอีเมลที่ส่งไปไม่สามารถส่งได้บอกว่า ข้อมูลเต็ม แต่วันนี้ฟรีอีเมลทั้งหลายก็ให้ขนาดของพื้นที่บรรจุมากมายมหาศาล เดาเอาว่า ไม่เคยลบอีเมลขยะทั้งหลาย พวกโฆษณาขายสินค้านานัปการ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับสมรรถนะทางเพศ หรืออาจจะเป็นเพราะว่า ยังไม่ได้ใช้ระบบการกรองข้อมูล
  • ส่งอีเมลลูกโซ่ (ผู้เขียน) ด้วยความปรารถนาดี ประสงค์ร้าย ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ มีคำอวยพรมาให้ด้วยว่า ถ้าไม่ส่งคุณจะประสบ... ช่างสรรหามาบรรยาย เป็นนักเขียนที่หาเรื่อง มาเขียนได้ วันหลังจะต้องช่วยกันคนละไม้คนละนิ้ว (จิ้มดีด) กำจัดอีเมลแบบนี้ ให้ลดน้อยลง

การเตรียมเอกสารประกอบการประชุม

เอกสารประกอบการประชุม

  • การวางกระดาษ ที่พบเห็นได้บ่อยคือ หากจัดประชุมที่โรงแรม ทางฝ่ายโรงแรมจะจัดเตรียมกระดาษวางบนโต๊ะ 1 แผ่นพร้อมด้วยดินสอ 1 แท่ง ดินสอนี้ส่วนใหญ่ก็จะระบุชื่อโรงแรมไว้เช่นกัน เป็นโฆษณาแอบแฝงแบบตรงๆ งงไหมเนี่ย! การวางดินสอ ทำไมต้องวางเอียงไม่วางตรง ใครรู้ช่วยตอบที แต่ผู้เขียนเข้าใจว่า เป็นเรื่องของความสวยงาม ถ้าวางตรงอาจจะไม่ถูกหลักฮวงจุ้ย (ว่าเข้าไปนั้น) เพราะเป็นสัญลักษณ์ว่า จะแทงข้างหลัง หรือ ถ้าหัวปลายดินสอมาที่ผู้เข้าประชุมจะบอกว่างานที่โดนแทงแน่ๆ
  • การเตรียมเอกสารประกอบการประชุม ควรเตรียมเผื่อไว้ไม่เกิน 5-10 ชุด โดยเฉพาะหากการประชุมนั้นมีประธานมาให้เกียรติเปิดประชุมก็ต้องสำรองไว้สำหรับผู้ติดตามด้วย ถ้าจำนวนของเอกสารสำหรับการประชุมแจกได้ครบตามจำนวนที่ผู้แจ้งเข้าร่วมประชุม นับว่า การจัดประชุมครั้งนี้มีการติดต่อประสานงานที่ดี คือมีขั้นตอน เริ่มตั้งแต่ การแจ้งล่วงหน้าเผื่อเวลาให้ผู้ที่จะเข้าประชุมได้เตรียมตัว ขณะที่ใกล้ถึงกำหนดเวลาประชุมก็มีการแจ้งซ้ำอีกรอบ กันไว้เผื่อลืมเวลาและหัวข้อเรื่องที่จะประชุม
  • การแจกเอกสาร ควรแจกก่อนเข้าประชุม จะเป็นเอกสารประกอบหัวข้อการบรรยายหรือการสัมมนากลุ่ม จะต้องเตรียมให้ครบทุกรายการ การทยอยแจกเอกสารในแต่ละหัวข้อขณะประชุม เท่ากับเป็นการรบกวนสมาธิผู้ฟัง ผู้พูด กรณีที่วิทยากรบรรยายไม่ได้เตรียมให้เอกสารไว้เป็นการล่วงหน้า แต่นำเอกสารมาเองผู้จัดประชุมต้องมีฝ่ายประสานงานตรงนี้ไว้ด้วย จะต้องไม่เกิดภาพที่ผู้พูดขอให้แจกเอกสารขณะที่ประชุม ซึ่งถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ขี้น ถือได้ว่า เป็นข้อบกพร่องของผู้ประสานงานว่า ไม่ได้ประสานเรื่องนี้ไว้ด้วย นอกจากวิทยากรมีความจำเป็นจริงๆ ต้องขอยกเว้นข้อนี้ไป
  • การเตรียมวัสดุสำหรับบรรจุเอกสาร ที่นิยมส่วนใหญ่ที่พบเห็นบ่อยๆ เป็นแฟ้มแบบต่างๆ เช่น ปกแฟ้ม แฟ้มกระเป๋า และตอนนี้ ที่เป็นกระแสพูดถึงภาวะโลกร้อน ก็นิยมทำเป็นถุงผ้า มีตราสินค้าหรือสถานที่หรือชื่อของหัวข้อของการจัดงาน ทั้งนี้ ในการจัดประชุมก็ต้องคำนึงถึงงบประมาณตรงนี้ไว้ด้วยตามความเหมาะสม การแจกแฟ้มเหล่านี้ ควรแจกหลังจากได้ลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว เพื่อจะได้เป็นการเช็คจำนวนได้ว่า ผู้เข้าประชุมนั้นมีรายชื่อตรงกับที่ได้แจ้งมาหรือเป็นผู้แทนหรือผู้ติดตาม จะได้ทราบล่วงหน้าสำหรับให้ผู้จัดประชุมได้เตรียมแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ถูกเรื่อง เพราะกรณีที่ผู้มาเข้าประชุมเป็นผู้ที่ไม่มีรายชื่อก็จะได้แยกที่นั่งไว้ตามที่ที่เหมาะสม กรณีที่การประชุมนั่งจัดเฉพาะคณะกรรมการหรือผู้มาประชุม ไม่ใช่ผู้เข้าร่วมประชุม
  • การขอเอกสารเพิ่ม กรณีเอกสารประกอบการประชุมนั้นน่าสนใจ ผู้เข้าประชุมอาจจะขอเพิ่มเติม ต้องการเอาไปเผื่อให้ผู้เกี่ยวข้อง ผู้จัดประชุมเตรียมแผนสำหรับเรื่องนี้ไว้ด้วย เอกสารต้องกะจำนวนไว้ให้พอดี หรือถ้าเห็นว่า จัดไว้ครบถ้วนแล้วต้องบอกปฏิเสธอย่างสุภาพที่สุดว่า “จำนวนเอกสารจัดเตรียมมาพอดีเฉพาะผู้ที่ลงทะเบียนเข้าประชุม”
  • การเตรียมกระดาษสำหรับบันทึก นอกเหนือจากเอกสารประกอบการประชุม ส่วนหนึ่งทางโรงแรมที่จัดจะจัดเตรียมให้ หนึ่งแผ่นพร้อมดินสอ ผู้จัดประชุมควรมีกระดาษเผื่อไว้สำหรับจดบันทึกด้วย ประมาณ 1-3 แผ่น แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า หากต้องการเพิ่มก็บอกได้ ไม่ควรให้กระดาษแก่ผู้เข้าประชุมจำนวนมาก เพราะบางครั้ง ผู้เข้าร่วมประชุมจะนำสมุดบันทึกติดตัวมาด้วย
  • การใช้กระดาษ re-use น่าดีใจที่ทุกวันนี้ เมื่อเข้าร่วมประชุมมีหลายหน่วยงานนำเอากระดาษ re-use (กลับด้านที่ไม่ได้ใช้) มาใช้กันมากขึ้น เป็นสิ่งที่ควรนำมาปฏิบัติ แต่กระดาษเหล่านี้จะต้องไม่ใช่เรื่องหรืองานที่จะเป็นเอกสารลับ แล้วอย่าลืมแจ้งให้ที่ประชุมทราบด้วยว่า จะใช้กระดาษแบบนี้ คือ อีกด้านจะมีข้อความ ซึ่งพบอยู่เสมอว่า ผู้เข้าประชุมขอเอกสารเพิ่มเพราะได้เอกสารที่มีข้อความไม่เหมือนกับเพื่อนที่นั่งใกล้ๆ กัน

ที่กล่าวมาข้างต้น อาจจะไม่ใช่ทั้งหมดของการจัดเอกสารประกอบการประชุม คิดว่า หากได้เตรียมการไว้ครบเกือบทุกขั้นตอน ซึ่งไม่น่าจะเป็นเรื่องที่หนักหนาอะไรสำหรับการทำหน้าที่ตรงนี้ของเลขานุการ และถ้าเลขานุการได้วางแผนที่ดีแล้ว สามารถให้ผู้ร่วมงานคนอื่นทำหน้าที่นี้แทนได้ ส่วนเลขานุการก็ไปรับหน้าที่อื่นที่สำคัญกว่าซึ่งจะพูดถึงอีกหลายเรื่อง เพื่อให้คุณเลขานุการทั้งหลายกลายเป็น เลขานุการมืออาชีพสำหรับการจัดประชุม

วันพุธที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

เครื่องสำอางมีสารอันตราย

อย.ประกาศเพิ่มอีก 3 ยี่ห้อ เครื่องสำอางมีสารอันตรายทำหน้าพัง ล่าสุดจาก อย. ประกาศเพิ่มเดือนสิงหาคม
อย.ประกาศเพิ่มอีก 3 ยี่ห้อ เครื่องสำอางมีสารอันตรายทำหน้าพัง

อย. ตรวจพบเครื่องสำอางผสมสารห้ามใช้ สาเหตุทำหน้าพัง ประกาศเพิ่มอีก 3 ยี่ห้อ จากเดิมที่ประกาศไปแล้ว 87 ยี่ห้อ แนะผู้บริโภคก่อนซื้อเครื่องสำอางควรอ่านฉลากที่มีรายละเอียดชัดเจน เช่นชื่อผู้ผลิต ส่วน-ประกอบและวิธีใช้ พร้อมเตือนร้านค้าหากนำเครื่องสำอางผิดกฎหมายมาจำหน่ายจะดำเนินการตามกฎหมาย อย่างเข้มงวดนพ.มรกต กรเกษม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ออกเก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางตามแหล่งจำหน่าย เช่น ร้านค้า และแผงลอย ส่งตรวจวิเคราะห์หาสารห้ามใช้ที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ซึ่งในปีงบประมาณ 2550 นี้ อย.ได้ประกาศผลการตรวจสอบหรือวิเคราะห์เครื่องสำอางที่พบสารห้ามใช้ไปแล้วรวม 87 ยี่ห้อ และในครั้งนี้ได้ตรวจพบเครื่องสำอางมีสารห้ามใช้เพิ่มอีก 3 ยี่ห้อ โดยตรวจพบกรดเรทิโนอิกหรือกรดวิตามินเอ ปรอท-แอมโมเนียหรือสารประกอบของปรอท และไฮโดรควิโนน นอกจากนี้ตรวจพบว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวแสดงฉลากไม่ถูกต้อง บางผลิตภัณฑ์ไม่มีการระบุผู้ผลิตหรือผู้จัดจำหน่าย เลขที่ผลิต วันที่ผลิตหรือวันหมดอายุ โดยรายชื่อผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางผิดกฎหมายดังกล่าว ได้แก่ เครื่องสำอางยี่ห้อ BAOJU WHITENING CREAM NIGHT CREAM พบกรดเรทิโนอิก ฉลากไม่ระบุผู้ผลิตหรือผู้จำหน่าย ไม่มีเลขที่ผลิต , ยี่ห้อ J Leena Serum มุกหน้าใส-เด้ง (เช้า2) พบปรอทแอมโมเนีย ฉลากไม่ระบุผู้ผลิตหรือผู้จำหน่าย ไม่มีเลขที่ผลิตและวันที่ผลิต , ยี่ห้อ J Leena Serum WHITENING ZERUM (เย็น 1) พบไฮโดรควิโนน ฉลากไม่ระบุผู้ผลิตหรือผู้จำหน่าย ไม่มีเลขที่ผลิตและวันที่ผลิต

นพ.มรกต กรเกษม กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอเตือนผู้บริโภคอย่าซื้อเครื่องสำอางยี่ห้อดังกล่าวมาใช้อย่างเด็ดขาด เพราะเสี่ยงต่อการได้รับอันตรายจากสารห้ามใช้ เนื่องจาก กรดวิตามินเอ อาจทำให้เกิดอาการหน้าแดง แสบ-ร้อนรุนแรง เกิดการอักเสบ ผิวหน้าลอกอย่างรุนแรงและอาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ ปรอทแอมโมเนีย อาจทำให้เกิดการแพ้ ผื่นแดง ผิวหน้าดำ ผิวบางลง เกิดพิษสะสมของสารปรอท ทำให้ทางเดินปัสสาวะและไตอักเสบ และไฮโดรควิโนน อาจทำให้ระคายเคือง เกิดจุดด่างขาวที่หน้า ผิวหน้าดำ เป็นฝ้าถาวร รักษาไม่หาย นอกจากนี้เมื่อจะซื้อขอให้สังเกตฉลากเป็นลำดับแรก ซึ่งฉลากที่ถูกต้องจะต้องมีภาษาไทย มีข้อความบังคับ-ครบถ้วน ได้แก่ ชื่อและประเภทผลิตภัณฑ์ ส่วนประกอบสำคัญ วิธีใช้ ชื่อและที่ตั้งแหล่งผลิต วันเดือนปีที่ผลิต ปริมาณสุทธิ และควรเลือกซื้อจากบริษัทหรือร้านที่น่าเชื่อถือ ไม่ควรซื้อเพราะคำโฆษณา

สำหรับร้านค้าที่ซื้อเครื่องสำอางมาจำหน่ายจะต้องซื้อจากผู้มีหลักแหล่งน่าเชื่อถือ และมีหลักฐานการ-ซื้อขายที่ระบุชื่อและที่ตั้งของผู้ขายอย่างชัดเจน และขออย่าได้นำเครื่องสำอางที่ผิดกฎหมายดังกล่าวมาจำหน่าย หากเจ้าหน้าที่ อย. ตรวจพบจะดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างเข้มงวด โดยผู้ขายจะต้องมีความผิดเช่นเดียวกับผู้ผลิต ส่วนบทลงโทษผู้ผลิตเพื่อขาย ผู้นำเข้าเพื่อขาย และผู้ขายเครื่องสำอางที่ไม่ปลอดภัยจะต้องถูกระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีของผู้ขายหากรู้ต้นตอแหล่งผลิตให้แจ้งทางราชการทราบโดยด่วน เพื่อจะได้ดำเนินการกวาดล้างเครื่องสำอางอันตรายให้หมดไป

วันอังคารที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

ความสำคัญเทคโนโลยีสารสนเทศ


ความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทำให้มีการพัฒนาคิดค้นสิ่งอำนวยความสะดวกสบายต่อการดำชีวิตเป็นอันมาก เทคโนโลยีได้เข้ามาเสริมปัจจัยพื้นฐานการดำรงชีวิตได้เป็นอย่างดี เทคโนโลยีทำให้การสร้างที่พักอาศัยมีคุณภาพมาตรฐาน สามารถผลิตสินค้าและให้บริการต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์มากขึ้น เทคโนโลยีทำให้ระบบการผลิตสามารถผลิตสินค้าได้เป็นจำนวนมากมีราคาถูกลง สินค้าได้คุณภาพ เทคโนโลยีทำให้มีการติดต่อสื่อสารกันได้สะดวก การเดินทางเชื่อมโยงถึงกันทำให้ประชากรในโลกติดต่อรับฟังข่าวสารกันได้ตลอดเวลา

พัฒนาการของเทคโนโลยีทำให้ชีวิตความเป็นอยู่เปลี่ยนไปมาก ลองย้อนไปในอดีตโลกมีกำเนินมาประมาณ 4600 ล้านปี เชื่อกันว่าพัฒนาการตามธรรมชาติทำให้เกิดสิ่งมีชีวิตถือกำเนินบนโลกประมาณ 500 ล้านปีที่แล้ว ยุคไดโนเสาร์มีอายุอยู่ในช่วง 200 ล้านปี สิ่งมีชีวิตที่เป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ ค่อย ๆ พัฒนามา คาดคะเนว่าเมื่อห้าแสนปีที่แล้วมนุษย์สามารถส่งสัญญาณท่าทางสื่อสารระหว่างกันและพัฒนามาเป็นภาษา มนุษย์สามารถสร้างตัวหนังสือ และจารึกไว้ตามผนึกถ้ำ เมื่อประมาณ 5000 ปีที่แล้ว กล่าวได้ว่ามนุษย์ต้องใช้เวลานานพอสมควรในการพัฒนาตัวหนังสือที่ใช้แทนภาษาพูด และจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่า มนุษย์สามารถจัดพิมพ์หนังสือได้เมื่อประมาณ 5000 ปีที่แล้ว กล่าวได้ว่าฐานทางประวัติศาสตร์พบว่า มนุษย์สามารถจัดพิมพ์หนังสือได้เมื่อประมาณ 500 ถึง 800 ปีที่แล้ว เทคโนโลยีเริ่มเข้ามาช่วยในการพิมพ์ ทำให้การสื่อสารด้วยข้อความและภาษาเพิ่มขึ้นมาก เทคโนโลยีพัฒนามาจนถึงการสื่อสารกัน โดยส่งข้อความเป็นเสียงทางสายโทรศัพท์ได้ประมาณร้อยกว่าปีที่แล้ว และเมื่อประมาณห้าสิบปีที่แล้ว ก็มีการส่งภาพโทรทัศน์และคอมพิวเตอร์ทำให้มีการใช้สารสนเทศในรูปแบบข่าวสารมากขึ้น ในปัจจุบันมีสถานที่วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ แ ละสื่อต่าง ๆ ที่ใช้ในการกระจ่ายข่าวสาร มีการแพร่ภาพทางโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเพื่อรายงานเหตุการณ์สด เห็นได้ชัดว่าเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทอย่างมาก บทบาทของการพัฒนาเทคโนโลยีรวดเร็วขึ้นเมื่อมีการพัฒนาอุปกรณ์ทางด้านคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ จะเห็นได้ว่าในช่วงสี่ห้าปีที่ผ่านมาจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งมีคอมพิวเตอร์เข้าไปเกี่ยวข้องให้เห็นอยู่ตลอดเวลา

ในอดีตยุคที่มนุษย์ยังเร่ร่อน มีอาชีพเกษตรกรรม ล่าสัตว์ ต่อมามีการรวมตัวกันสร้างเมือง และสังคมเมืองทำให้เกิดอุตสาหกรรมการผลิต การผลิตทำให้เกิดการปฏิวัติทางอุตสาหกรรมที่เน้นการผลิตจำนวนมาก สังคมจึงเป็นสังคมเมืองที่มีอุตสาหกรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่หลังจากปี พ.ศ. 2530 เป็นต้นมา ระบบสื่อสารโทรคมนาคมและคอมพิวเตอร์ก้าวหน้ามาก ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคสังคมสารสนเทศ ชีวิตความเป็นอยู่เกี่ยวข้องกับข้อมูลข่าวสารจำนวนมาก การสื่อสารโทรคมนาคมกระจายทั่วถึง ทำให้ข่าวสารแพร่กระจ่ายไปอย่างรวดเร็ว สังคมในปัจจุบันเป็นสังคมไร้พรมแดนเพราะเรื่องราวของประเทศหนึ่งสามารถกระจายแพร่ออกไปยังประเทศต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
นิยามเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
คำว่าเทคโนโลยี หมายถึง การประยุกต์เอาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ การศึกษาพัฒนาองค์ความรู้ต่าง ๆ ก็เพื่อให้เข้าใจธรรมชาติ กฎเกณฑ์ของสิ่งต่าง ๆ และหาทางนำมาประยุกต์ให้เกิดประโยชน์ เทคโนโลยีจึงเป็นค้าที่มีความหมายกว้างไกล เป็นคำที่เราได้พบเห็นและได้ยินอยู่ตลอดมา
ลองนึกดูว่าทรายที่เราเห็นอยู่บนพื้นดิน ตามชายหาด ชายทะเลเป็นสารประกอบของซิลิกอน ทรายเหล่านั้นมีราคาต่ำและเรามองข้ามไป ครั้งมีบางคนที่เรียนรู้วิธีการแยกสกัดเอาสารซิลิกอนให้บริสุทธิ์ และเจือสารบางอย่างให้เกิดเป็นสิ่งที่เรียกว่าสารกึ่งตัวนำ นำมาผลิตเป็นทรานซิสเตอร์ และไอซี (Integrated Circuit : IC) ไอซีนี้เป็นอุปกรณ์ที่รวมวงจรอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมากไว้ด้วยกัน ใช้เป็นชิพซึ่งเป็นส่วนสำคัญของคอมพิวเตอร์ สารซิลิกอนดังกล่าวเมื่อผ่านกรรมวิธีทางเทคโนโลยีแล้วจะมีราคาสูงสามารถนำมาขายได้เงินเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเทคโนโลยีจึงเป็นหัวใจของการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพราะเรานำเอาวัตถุดิบมาผ่านเทคนิคการดำเนินการ จะได้วัตถุสำเร็จรูป สินค้าเหล่านี้จะมีมูลค่าเพิ่มจากวัตถุดิบนั้นมาก ประเทศใดมีเทคโนโลยีมากมักจะเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว เทคโนโลยีจึงเป็นหาทางที่จะช่วยในการพัฒนาให้สินค้าและบริการมีมูลค่าเพิ่มขึ้น ทุกประเทศจึงให้ความสำคัญของการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ามาช่วยงานด้านต่าง ๆ
ส่วนคำว่าสารสนเทศ หมายถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ มนุษย์แต่ละคนตั้งแต่เกิดมาได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก เรียนรู้สภาพสังคมความเป็นอยู่ กฎเกณฑ์และวิชาการ ลองจินตนาการดูว่าภายในสมองของเราเก็บข้อมูลอะไรบ้าง เราคงตอบไม่ได้ แต่สามารถเรียกเอาข้อมูลมาใช้ได้ ข้อมูลที่เก็บไว้ในสมองเป็นสิ่งที่สะสมกันมาเป็นเวลานาน ความรอบรู้ของแต่ละคนจึงขึ้นอยู่กับการเรียกใช้ข้อมูลนั้น ดังนั้นจะเห็นได้ชัดความรู้เกิดจากข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ทุกวันนี้มีข้อมูลรอบตัวเรามาก ข้อมูลเหล่านี้มาจากสื่อ เช่น วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่การสื่อสารระหว่างบุคคล จึงมีผู้กล่าวว่ายุคนี้เป็นยุคของสารสนเทศ
ภายในสมองมนุษย์ซึ่งเป็นที่เก็บข้อมูลไว้มากมายจะมีข้อจำกัดในการจัดเก็บ การเรียกใช้ การประมวลผล และการคิดคำนวณ ดังนั้นจึงมีผู้พยายามสร้างเครื่องจักรเครื่องมือ เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการจัดการสารสนเทศ เช่นเครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งสามารถเก็บข้อมูลไว้ในหน่วยความจำได้มาก สามารถให้ข้อมูลได้แม่นยำและถูกต้องเมื่อมีการเรียกค้นหา ทำงานได้ตลอดวันไม่เหน็ดเหนื่อย และยังส่งข้อมูลไปได้ไกลและรวดเร็วมาก เครื่องจักรอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับสารสนเทศนั้นมีมากมายตั้งแต่เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์รอบข้าง ระบบสื่อสารโทรคมนาคมสมัยใหม่ ทำให้เกิดงานบริการที่อำนวยความสะดวกต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น การฝากถอนเงินผ่านเครื่องเอทีเอ็ม (Automatic Teller Machine : ATM) การจองตั๋วดูภาพยนตร์ การลงทะเบียนเรียนในโรงเรียน
เมื่อรวมคำว่าเทคโนโลยีกับสารสนเทศเข้าด้วยกัน จึงหมายถึงเทคโนโลยีที่ใช้จัดการสารสนเทศ เป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องตั้งแต่การรวบรวมการจัดเก็บข้อมูล การประมวลผล การพิมพ์ การสร้างรายงาน การสื่อสารข้อมูล ฯลฯ เทคโนโลยีสารสนเทศจะรวมไปถึงเทคโนโลยีที่ทำให้เกิดระบบการให้บริการ การใช้ และการดูแลข้อมูล
  • เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ในการประกอบการทางด้านเศรษฐกิจ การค้า และการอุตสาหกรรม จำเป็นต้องหาวิธีในการเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานคอมพิวเตอร์และระบบสื่อสารเข้ามาช่วยทำให้เกิดระบบอัตโนมัติ เราสามารถฝากถอนเงินสดผ่านเครื่องเอทีเอ็มได้ตลอดเวลา ธนาคารสามารถให้บริการได้ดีขึ้น ทำให้การบริการโดยรวมมีประสิทธิภาพ ในระบบการจัดการทุกแห่งต้องใช้ข้อมูลเพื่อการดำเนินการและการตัดสินใจ ระบบธุรกิจจึงใช้เครื่องมือเหล่านี้ช่วยในการทำงาน เช่น ใช้ในระบบจัดเก็บเงินสด จองตั๋วเครื่องบิน เป็นต้น
  • เทคโนโลยีสารสนเทศเปลี่ยนรูปแบบการบริการเป็นแบบกระจาย เมื่อมีการพัฒนาระบบข้อมูล และการใช้ข้อมูลได้ดี การบริการต่าง ๆ จึงเน้นรูปแบบการบริการแบบกระจาย ผู้ใช้สามารถสั่งซื้อสินค้าจากที่บ้าน สามารถสอบถามข้อมุลผ่านทางโทรศัพท์ นิสิตนักศึกษาบางมหาวิทยาลัยสามารถใช้คอมพิวเตอร์สอบถามผลสอบจากที่บ้านได้
  • เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นสิ่งที่จำเป็น สำหรับการดำเนินการในหน่วยงานต่าง ๆ ปัจจุบันทุกหน่วยงานต่างพัฒนาระบบรวบรวมจัดเก็บข้อมูลเพื่อใข้ในองค์การประเทศไทยมีระบบทะเบียนราษฎร์ที่จัดทำด้วยระบบ ระบบเวชระเบียนในโรงพยาบาล ระบบการจัดเก็บข้อมูลภาษี ในองค์การทุกระดับเห็นความสำคัญที่จะนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้
  • เทคโนโลยีสารสนเทศเกี่ยวข้องกับคนทุกระดับ พัฒนาการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี ดังจะเห็นได้จาก การพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์ การใช้ตารางคำนวณ และใช้อุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมแบบต่าง ๆ เป็นต้น

ผลของเทคโนโลยีสารสนเทศ
การกำเนิดของคอมพิวเตอร์เมื่อประมาณห้าสิบกว่าปีที่แล้ว เป็นก้าวสำคัญที่นำไปสู่ยุคสารสนเทศ ในช่วงแรกมีการนำเอาคอมพิวเตอร์มาใช้เป็นเครื่องคำนวณ แต่ต่อมาได้มีความพยายามพัฒนาให้คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์สำคัญสำหรับการจัดการข้อมูล เมื่อเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ได้ก้าวหน้ามากขึ้น ทำให้สามารถสร้างคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็กลง แต่ประสิทธิภาพสูงขึ้น สภาพการใช้งานจึงใช้งานกันอย่างแพร่หลาย ผลของเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีต่อชีวิตความเป็นอยู่และสังคมจึงมีมาก มีการเรียนรู้และใช้สารสนเทศกันอย่างกว้างขวาง ผลของเทคโนโลยีสารสนเทศโดยรวมกล่าวได้ดังนี้

  • การสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สภาพความเป็นอยู่ของสังคมเมือง มีการพัฒนาใช้ระบบสื่อสารโทรคมนาคม เพื่อติดต่อสื่อสารให้สะดวกขึ้น มีการประยุกต์มาใช้กับเครื่องอำนวยความสะดวกภายในบ้าน เช่น ใช้ควบคุมเครื่องปรับอากาศ ใช้ควมคุมระบบไฟฟ้าภายในบ้าน เป็นต้น
  • เสริมสร้างความเท่าเทียมในสังคมและการกระจายโอกาส เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้เกิดการกระจายไปทั่วทุกหนแห่ง แม้แต่ถิ่นทุรกันดาร ทำให้มีการกระจายโอการการเรียนรู้ มีการใช้ระบบการเรียนการสอนทางไกล การกระจายการเรียนรู้ไปยังถิ่นห่างไกล นอกจากนี้ในปัจจุบันมีความพยายามที่ใช้ระบบการรักษาพยาบาลผ่านเครือข่ายสื่อสาร
  • สารสนเทศกับการเรียนการสอนในโรงเรียน การเรียนการสอนในโรงเรียนมีการนำคอมพิวเตอร์และเครื่องมือประกอบช่วยในการเรียนรู้ เช่น วีดิทัศน์ เครื่องฉายภาพ คอมพิวเตอร์ช่วยสอน คอมพิวเตอร์ช่วยจัดการศึกษา จัดตารางสอน คำนวณระดับคะแนน จัดชั้นเรียน ทำรายงานเพื่อให้ผู้บริหารได้ทราบถึงปัญหาและการแก้ปัญหาในโรงเรียน ปัจจุบันมีการเรียนการสอนทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศในโรงเรียนมากขึ้น
  • เทคโนโลยีสารสนเทศกับสิ่งแวดล้อม การจัดการทรัพยากรธรรมชาติหลายอย่างจำเป็นต้องใช้สารสนเทศ เช่น การดูแลรักษาป่า จำเป็นต้องใช้ข้อมูล มีการใช้ภาพถ่ายดาวเทียม การติดตามข้อมูลสภาพอากาศ การพยากรณ์อากาศ การจำลองรูปแบบสภาวะสิ่งแวดล้อมเพื่อปรับปรุงแก้ไข การเก็บรวมรวมข้อมูลคุณภาพน้ำในแม่น้ำต่าง ๆ การตรวจวัดมลภาวะ ตลอดจนการใช้ระบบการตรวจวัดระยะไกลมาช่วย ที่เรียกว่าโทรมาตร เป็นต้น
  • เทคโนโลยีสารสนเทศกับการป้องกันประเทศ กิจการทางด้านการทหารมีการใช้เทคโนโลยี อาวุธยุทโธปกรณ์สมัยใหม่ล้วนแต่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์และระบบควบคุม มีการใช้ระบบป้องกันภัย ระบบเฝ้าระวังที่มีคอมพิวเตอร์ควบคุมการทำงาน
  • การผลิตในอุตสาหกรรม และการพาณิชยกรรม การแข่งขันทางด้านการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมจำเป็นต้องหาวิธีการในการผลิตให้ได้มาก ราคาถูกลงเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทมาก มีการใช้ข้อมูลข่าวสารเพื่อการบริหารและการจัดการ การดำเนินการและยังรวมไปถึงการให้บริการกับลูกค้า เพื่อให้ซื้อสินค้าได้สะดวกขึ้น

เทคโนโลยีสารสนเทศมีผลเกี่ยวข้องกับทุกเรื่องในชีวิตประจำวัน บทบาทเหล่านี้มีแนวโน้มที่สำคัญมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้เยาวชนคนรุ่นใหม่จึงควรเรียนรู้ และเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อจะได้เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศให้ก้าวหน้าและเกิดประโยชน์ต่อประเทศต่อไป